หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๓๘.pdf/82

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ศก ๑๑๔
79
 

เพราะเหตุฉนี้ ตั้งแต่นี้ต่อไป ให้เลิกศาลราชทัณฑ์พิเฉทนั้นเสีย ยกมารวมในศาลพระราชอาญาเปนแห่งเดียวกัน เรียกว่า ศาลพระราชอาญา มีน่าที่สำหรับพิจารณาแลรับฟ้องในคดีความพระราชอาญาทั้งปวงสืบต่อไป

อนึ่ง ศาลแพ่งซึ่งแต่ก่อนแบ่งอยู่เปนสองศาล คือ ศาลแพ่งเกษม ๑ ศาลแพ่งไกสี ๑ ตั้งแต่นี้ต่อไป ให้ทำการรับฟ้องผู้มีอรรถคดีแลพิจารณาพิพากษาคดีความแพ่งทั้งปวงรวมกันเปนศาลแพ่งแห่งเดียวเท่านั้น

ถ้าแลสืบไปภายน่า มีความพระราชอาญาฤๅความแพ่งคั่งค้างมากกว่ากำลังแลเวลาที่ผู้พิพากษาจะทำการแต่ศาลเดียวให้แล้วสำเร็จไปได้ ก็ให้อธิบดีผู้พิพากษาใหญ่ในศาลพระราชอาชญาฤๅศาลแพ่งปฤกษาหาฤๅกับเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม จัดแบ่งแยกตัวผู้พิพากษาในศาลนั้น ๆ ออกเปนสองศาลฤๅสามศาลเปนกอง ๆ ทำการพิจารณาคดีความที่มีมามากนั้นกว่าจะสำเร็จลุล่วงแล้วไปให้ทันกำหนดเวลาอันควรจะแล้วได้ เมื่อคดีความที่มีมามากนั้นล่วงแล้วหมดน้อยไปแล้ว ก็ให้กลับรวมกันทำการแต่ศาลเดียวตามน่าที่กำหนดเดิมของศาลนั้น ๆ สืบต่อไป

ประกาศมาณวันที่ ๔ มกราคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ เปนวันที่ ๙๙๑๗ ในรัชกาลปัตยุบันนี้