หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๓๙.pdf/37

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
32
ศก ๑๑๕
 

ฉีกคู่ฉบับหมายนำกลับมาส่งต่อยกระบัตรศาลลงบาญชีความที่รับหมายนัด แล้วเสนอต่อผู้พิพากษาแลประกาศไว้ณศาล

(๒)เมื่อถึงวันกำหนดนัดผู้พิพากษาเรียกความที่นัดมาพิจารณาเรื่องใด โจทย์จำเลยฤๅผู้แก้ต่างว่าต่างโจทย์จำเลยไม่มาตามนัดทั้งสองข้าง แลมิได้มีคำชี้แจงเหตุที่จำเปนจะมาไม่ได้ฤๅคำขอเลื่อนวันนัดอย่างหนึ่งอย่างใดที่ศาลจะเห็นสมควร โจทย์จำเลยขาดนัดเช่นนี้ ก็ให้ศาลพิพากษาเลิกความเรื่องนั้นเสีย

(๓)ถ้าโจทย์ฤๅผู้ว่าต่างโจทย์มิได้มาว่าความตามกำหนดหมายนัด แลไม่แจ้งเหตุการฤๅขอเลื่อนวันประการใด แต่ฝ่ายจำเลยฤๅผู้ว่าต่างจำเลยได้มาตามนัด ถ้าความนั้นจำเลยยังไม่ได้ให้การ ก็ให้พิพากษายกฟ้องโจทย์ผู้ขาดนัดเสียทีเดียว ถ้าจำเลยได้ให้การไว้ก่อนแล้ว ให้ศาลตรวจดูในคำให้การจำเลย ถ้าคำให้การจำเลยรับตามฟ้องเพียงใด ให้พิพากษาแต่ตามที่รับเพียงนั้น ข้อที่ไม่รับกันนั้น ไม่ต้องพิจารณาต่อไป ให้ยกเสีย แต่ข้อที่จำเลยให้การเกี่ยวแก้กลับกล่าวโทษโจทย์นั้น ถ้าจำเลยจะว่ากล่าวต่อไป ก็ให้จำเลยไปฟ้องหาโจทย์เปนคดีหนึ่งต่างหาก

(๔)ถ้าจำเลยฤๅผู้ว่าต่างจำเลยไม่มาศาลตามกำหนดนัด แลมิได้บอกเหตุที่จำเปนจะมาไม่ได้ให้พอที่ศาลจะเห็นสมควร แลศาลไต่สวนเชื่อแน่ว่า จำเลยได้รับหมายเรียกหมายนัดนั้นแล้ว แลไม่มาตามนัด แต่ฝ่ายโจทย์ได้มาตามนัด ก็ให้ศาลพิจารณาสำนวนโจทย์ไปฝ่ายเดียว แลตัดสินตามรูปความ