หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๓๙.pdf/38

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ศก ๑๑๕
33
 

(๕)คดีที่จำเลยขาดนัด ศาลพิจารณาแต่สำนวนโจทย์ไปฝ่ายเดียวก็ดี ฤๅคดีที่ฝ่ายโจทย์ขาดนัด ฤๅโจทย์จำเลยขาดนัดด้วยกันทั้งสองฝ่าย ศาลได้พิพากษายกฟ้องความเสียก็ดี บรรดาคดีที่ศาลได้พิพากษาโดยเหตุคู่ความขาดนัดดังกล่าวมานั้น ถ้าคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฤๅทั้งสองฝ่ายมีเหตุการณ์จำเปนจริงที่ตนจะมาว่าความตามนัดไม่ได้โดยสุจริต ได้มาพิสูทธ์ตนชี้แจงแสดงเหตุต่อศาลในเวลาใดเวลาหนึ่งก่อนศาลยังมิได้ตัดสินความก็ดี ฤๅเมื่อศาลได้ตัดสินแล้วได้มาร้องทุเลาภายในกำหนด ๑๕ วันนับตั้งแต่วันตัดสินเปนต้นไปก็ดี ก็ให้ศาลพิสูทธ์ไต่สวนตามคำทุเลานั้นก่อน ถ้าได้ความจริงสมคำทุเลา แลผู้พิพากษาเห็นสมควรแก่ยุติธรรมที่จะต้องพิจารณาคดีนั้นตามสำนวนต่อไป ก็ให้พิพากษายกคำพิพากษาเดิมเสีย แลกำหนดวันนัดพิจารณาคดีเรื่องนั้นต่อไปใหม่ก็ได้ แต่ต้องยกไปไว้ท้ายบาญชีกำหนดวันพิจารณาโดยอันดับต่อไป

(๖)บรรดาคดีที่โจทย์จำเลยขาดนัดทั้งสองฝ่ายฤๅแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ดี ถ้าเปนความพระราชอาญาซึ่งจำเลยต้องคำหาในคดีฉกรรจ์มหันตโทษ จะยกความนั้นเสียไม่ได้ ให้ศาลลงโทษผู้ขาดนัดเอาตัวขังไว้มีกำหนดไม่เกินเดือนหนึ่งลงมา

(๗)คดีเรื่องใดที่ผู้พิพากษาได้กำหนดวันนัดพิจารณาชำระแลออกหมายนัดไปยังคู่ความ ได้รับหมายนัดแล้ว โจทย์จำเลยฝ่ายหนึ่งฝ่าย