ในเรื่องการถอนคดี จะถอนได้เพียงเวลาที่กรุงสยามยังไม่ประกาศและใช้ประมวลกฎหมายครบถ้วน
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ ประเทศสยามได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบราชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยโดยมีรัฐธรรมนูญ รัฐบาลรัฐธรรมนูญได้พยายามอย่างยิ่งในการที่จะเร่งให้ประมวลกฎหมายที่ร่างค้างอยู่ออกประกาศใช้โดยเร็วที่สุดที่จะทำได้ เพื่อประโยชน์ในการที่จะได้อำนาจศาลโดยเด็ดขาดังกล่าวแล้วในบทก่อน ในที่สุดด้วยความพากเพียรและอุสาหะของรัฐบาลพร้อมทั้งการร่วมมือของสภาผู้แทนราษฎร ประมวลกฎหมาย บรรพ ๕–๖ ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา และพระธรรมนูญศาลยุตติธรรมฉะบับใหม่ ก็ได้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้เมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๔๗๗
โดยเหตุที่ประเทศสยามได้มีประมวลกฎหมายออกใช้ครบถ้วนตามสัญญาทางพระราชไมตรีแล้ว ศาลคดีต่างประเทศและศาลต่างประเทศซึ่งมีอยู่โดยสัญญานับว่าเป็นอันสิ้นสุดลง แต่ประเทศต่าง ๆ ซึ่งได้กล่าวไว้แล้วในบทก่อนนี้ยังคงมีสิทธิครบถ้วนได้ต่อจากวันใช้ประมวลกฎหมายครบถ้วนนี้อีก ๕ ปี
อย่างไรก็ดี เป็นที่ยินดีที่ได้ทราบว่า รัฐบาลปัจจุบันนี้ได้เริ่มที่จะเจรจาสัญญาใหม่กับนานาประเทศ เพื่อให้ได้สิทธิบริบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไปในเร็ว ๆ นี้ ดังปรากฏอยู่แล้วในนโยบายซึ่งแถลงไว้ต่อสภาผู้แทนราษฎร