อย่างไรเมื่อรถไฟไปถึงสะเตชั่นบ้านปากธ่อหยุดหลีกรถเมืองเพ็ชร พบเจ้าพระยาสุรพันธ์ยืนยิ้มคอยรับเสด็จอยู่ที่สะเตชั่น ดูเป็นที่ปลาดใจกันมาก ด้วยการที่จะเสด็จก็สั่งกันเป็นปัจจุบันทันด่วน แลได้กำชับเจ้าพนักงานรถไฟมิให้บอกไปเมืองเพ็ชรว่าจะเสด็จ เหตุใดความนี้จึงรู้ไปถึงเจ้าพระยาสุรพันธ์ถึงล่วงน่ามารับเสด็จอยู่ได้เป็นครึ่งทาง ใคร ๆ ซักไซ้ไต่ถามเจ้าพระยาสุรพันธ์ ว่าทำไมจึงได้รู้ว่าจะเสด็จ ท่านก็ยิ้มเยาะ บอกแต่ว่าคอยสืบอยู่จึงได้ทราบ ทำให้เกิดฉงนสนเท่ห์แปลกันไปต่าง ๆ จนท่านผู้ที่เป็นต้นรับสั่งเรื่องเสด็จวันนี้จะออกตกใจ เกรงความผิดว่าไม่ปิดข่าวเสด็จได้มิดชิดตามพระราชประสงค์ ต่อมีรับสั่งซักไซ้จึงได้ความจากเจ้าพระยาสุรพันธ์กราบทูลว่าบ่าวมาอยู่ที่สะเตชั่นรถไฟ ได้ทราบจากนายสะเตชั่น ว่าได้รับโทรเลขสั่งไปจากเมืองราชบุรี ว่าจะมีรถไฟพิเศษไปเมืองเพ็ชรบุรีในบ่ายวันนั้น บ่าววิ่งไปบอกเจ้าพระยาสุรพันธ์ ๆ นึกว่ารถไฟพิเศษนี้บางทีจะเกี่ยวด้วยการเสด็จสักอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงรีบขึ้นรถบ่ายมาจากเมืองเพ็ชร คาดว่าถ้าไม่พบเสด็จในรถไฟพิเศษ ก็จะเลยมาเฝ้าฟังราชการที่เมืองราชบุรี มิได้สั่งให้ตระเตรียมการรับเสด็จไว้อย่างหนึ่งอย่างใดในเมืองเพ็ชร ได้ความดังนี้ ดูสมกับกิริยาเจ้าพระยาสุรพันธ์เมื่อได้ทราบว่าจะเสด็จเมืองเพ็ชรจริง ๆ ดูท่านตกใจวุ่นวาย จะไปโทรเลขสั่งโน่นสั่งนี่จนต้องคุมตัว แลต้องสั่งเจ้าพนักงานมิให้รับโทรเลขของเจ้าพระยาสุรพันธ์ไปส่ง แลมิให้บอกข่าวเสด็จล่วงน่าไปเมืองเพ็ชรบุรีเป็นอันขาด เมื่อไปถึงเมืองเพ็ชรบุรีสังเกตดูก็เห็นได้ว่า ไม่มีใครรู้ว่าจะเสด็จจริง ผู้คนเป็นปกติตาม
หน้า:จมห ประพาสต้น - ๒๔๗๗.pdf/32
หน้าตา