มีหนังสือชื่อ อ้ายเจ๊กขันซองบุหรี่เงิน พาลูกเจ๊กขันมาขอชื่อ เป็นผู้ชายน่าเอนดูดี ให้ชื่อเจอ ถ่ายรูปเรือนแลทั้งครัว บ่าย ๒ โมงเศษได้ออกเรือ ตาช้างตามส่งถึงป่าโมกข์ สะพานป่าโมกทำสูงน้ำมาก เดิมคิดว่าจะไปให้ถึงอ่างทองเสียทีเดียว แต่เห็นเวลาบ่าย ๔ โมงแล้ว ถ้าจะไปคงจะถึงย่ำค่ำเลย จึงหยุดที่ป่าโมกข์ หม่อมอมรวงศ์
มาคอยอยู่ มีราษฎรมามากเหมือนเทศกาลไหว้พระ แต่ถามดูก็ได้ความว่านัดกันมารับเสด็จเท่านั้น ขึ้นถ่ายรูปนมัสการพระตามเคย
มีเรื่องแปลกที่มาได้พบตัวจริงของผู้ที่ว่าได้เคยพูดกับพระนอน ซึ่งเจ้าคณะได้บอกลงไปหลายเดือนมาแล้ว เรื่องราวนั้นคือ อำแดงคนหนึ่งเป็นหลานพระครูป่าโมกข์ มารักษาอุโบสถอยู่ที่วัดนี้ในกาฬปักษ์ใดปักษ์หนึ่ง เวลานั้นสัปรุษพากันรับเพลตามภาษาเขาเรียกอยู่ที่วิหารเขียน แต่นางหลานพระครูคนนี้ไม่รับเพล ด้วยมีความวิตกว่าลุงเจ็บ จึงไปบอกหลวงพ่อคือพระนอนขอให้ช่วยรักษา นางนั้นตกใจมากที่ได้ยินเสียงพระนอนนั้นพูดตอบออกมา แต่มิได้ตอบทางพระโอษฐ เสียงก้องออกมาจากพระอุระ ดังได้ยินจนนอกโบสถ์ บอกตำรายา ถามนางนั้นก็อิดเอื้อนไปว่าจำไม่ได้หมด จำได้แต่ใบเงินใบทอง พระครูรับว่าจะให้เพราะได้จดไว้ ยานั้นไปรักษาลุงหาย ได้แจ้งความให้พระครูทราบ พระครูไม่เชื่อ พอประจวบเกิดพระสงฆ์เป็นอหิวาตกโรค จึงได้ไปลองพูดดูบ้างก็ได้