หน้า:ฎ ๒๕๓๑-๒๓๕๔.pdf/9

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
หมิ่นประมาท ดูหมิ่นซึ่งหน้า • ๙๐
 

กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาได้เป็นกรรมการบริหารในตำแหน่งโฆษกพรรค และครั้งหลังสุดเป็นเลขาธิการพรรค ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่มีบทบาทในการหาเสียงคือหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายมารุต บุนนาค และตัวจำเลย เกี่ยวกับคดีนี้ เนื่องจากมีการเลือกตั้งทั่วไปในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๙ จำเลยในฐานะเลขาธิการพรรคต้องเดินทางไปช่วยหาเสียงให้แก่ลูกพรรคทั่วประเทศ ในจังหวัดบุรีรัมย์พรรคประชาธิปัตย์ส่งสมาชิกลงสมัครในเขตเลือกตั้งทุกเขต เขต ๑ มีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ระหว่างหาเสียงนั้นจำเลยได้รับรายงานจากนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ว่าได้รับความนิยมจากประชาชนมาก ทำให้คู่แข่งหวั่นวิตกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะการเลือกตั้ง คู่แข่งขันจึงระดมกันโจมตี นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ โดยการปราศรัยและออกใบปลิวแจกจ่ายแก่ประชาชน อ้างว่าชาวบุรีรัมย์ควรเลือกคนบุรีรัมย์เป็นผู้แทนราษฎร นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เป็นคนเกิดที่กรุงเทพมหานคร และเป็นลูกเศรษฐีจึงไม่ควรเลือกนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เป็นผู้แทนราษฎรของจังหวัดบุรีรัมย์ ข้อกล่าวหานี้ทำให้นายพรเทพ เตชะไพบูลย์วิตกว่าอาจจะทำให้คะแนนเสียงลดลงหรือทำให้ไม่ได้รับเลือกตั้ง จำเลยจึงรับที่จะแก้ไขให้ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๒๙ จำเลยได้ไปช่วยหาเสียงให้แก่นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ นายการุณ ใสงาม เฉพาะในเขต ๑ จำเลยไปปราศรัยที่อำเภอลำปลายมาศและอำเภอสตึก ส่วนเขตของนายการุณ ใสงาม จำเลยปราศรัยที่หลังสถานีรถไฟอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ข้อความที่ปราศรัยที่อำเภอลำปลายมาศและอำเภอสตึก จำเลยปราศรัยเรื่องการเมืองและปัญหาสังคม และอธิบายถึงหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่แท้จริงให้ประชาชนได้เข้าใจ เมื่ออธิบายถึงหน้าที่ของผู้แทนราษฎรแล้ว จำเลยได้อธิบายถึงคุณสมบัติของผู้สมัครของพรรคว่า นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ มีวุฒิทางการศึกษาสูง จบจากต่างประเทศ มีสถานะส่วนตัวดี อยู่ในฐานะ