หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/21

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
6

มนเทียรนั้นจนบัดนี้ มีคนชอบพูดกันว่า พระพุทธนรสีห์เปนพระมีอภินิหารไห้เกิดสวัสดิมงคล อ้างว่า ตัวฉันผู้เชินลงมาไม่ช้าก็ได้เลื่อนยสจากกรมหมื่นขึ้นเปนกรมหลวง พระพุทธาจารย (มา) เมื่อยังเปนพระมงคลทิพมุนี ผู้อำนวยการปติสังขรน์ เปนพระราชาคนะสามัญ ก็ได้เลื่อนสมนะสักดิเปนพระราชาคนะผู้ไหย่ชั้นเทพ แม้พระภิกสุเปี่ยม ช่างหล่อผู้แต่งพระพุทธนรสีห์ ต่อมาไม่ช้า ก็ได้มีสมนะสักดิเปนที่พระครูมงคลวิจิตร เขาว่ากันดังนี้

พระพุทธรูปองค์ที่ได้มาจากเมืองทุ่งยั้งนั้น จะว่ามีอภินิหารก็ได้ แต่เปนไปอีกทางหนึ่งต่างหาก เมื่อฉันถวายพระพุทธนรสีห์ไปแล้ว พระพุทธาจารยท่านปติสังขรน์พระพุทธรูปองค์เมืองทุ่งยั้งเส็ด ก็ส่งมาไห้ฉัน ไห้ตั้งไว้ที่ท้องพระโรงบูชาแทนพระพุทธนรสีห์มาได้สักสองเดือน วันหนึ่ง ฉันไปหามารดาตามเคย ท่านถามว่า ได้ยินว่า ที่ไปได้พระมาจากเมืองเหนือองค์หนึ่ง มักทำไห้เกิดทเลาะวิวาทกัน จิงหรือ ฉันไม่เคยเล่าเรื่องเดิมของพระองค์นั้นแก่ไคร ชะรอยจะมีคนไนพวกที่ได้ขึ้นไปเมืองเหนือกับฉันไนครั้งนั้นไปบอกไห้ท่านซาบ แต่เมื่อท่านรู้แล้ว ฉันก็เล่าเรื่องไห้ท่านฟังตามเขาบอกที่เมืองอุตรดิถ ท่านพูดต่อไปว่า แต่ก่อนมา คนที่ไนบ้านก็หยู่กันเปนปรกติ ตั้งแต่ฉันเอาพระองค์นั้นมาไว้ที่บ้าน ดูเกิดวิวาทบาดทเลาะกันไม่หยุด ท่านส่งเสสกะดาดชิ้นหนึ่งซึ่งท่านได้ไห้จดชื่อคนวิวาทมาไห้ฉันดู มีทั้งผู้ดีและไพร่วิวาทกันถึง 6 คู่ ท่านตักเตือนแต่ว่า ขอไห้ฉันคิดดูไห้ดี ฉันกลับมาคิดดู เห็นว่า ถ้าขืนเอาพระองค์นั้นไว้