หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๕) - ๒๔๖๒.pdf/20

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

แล่นไปควนยานฝ่ายอุดร ๆ แล่นไปควนกระทุ ๆ แล่นไปกำมะไสย ตั้งแต่คลองกำมะไสยแล่นไปแม่น้ำวัดฝ่ายอุดรควนยาน ๆ แล่นไปเปรวชะเมา (ป่าช้าชะเมา) เปรวชะเมาแล่นไปปากแวตีนทะเลสาบเปนแดน

วัดเขียนบางแก้วมีเลณฑุบาตตั้งแต่แม่น้ำบางแก้วแล่นไปตามแพรกแม่น้ำท่าช้าง ๆ แล่นไปปลายคลองโพศสมา ๆ แล่นไปด่านฟ้ารั่ว ๆ แล่นไปหานเลน ๆ แล่นไปกระหวะ ๆ แล่นไปพยาเตย ๆ แล่นไปแก่งตาเสียด ๆ แล่นไปลำน้ำพระเกิดลงไปจดชายทะเลสาปเปนแดน

แล้วพระครูอินทโมฬีฯ กลับออกมาอยู่วัดสทัง มีที่พระกัลปนา ๒๔ หัวงาน วัดเขียนพระมหาสีราชเปนเจ้าอธิการตามเดิม มีที่พระกัลปนา ๑๔ หัวงาน แลข้าโปรดคนทานพระกัลปนาโปรดพระราชทานตัดขาดออกจากราชการหลวงให้เปนข้าพระโยมสงฆ์สำหรับตกแต่งวัดทั้งสิ้น แม้เกิดอรรถคดี เว้นแต่ความฆ่ากันตาย นอกจากนั้นนายประเพณีแลพวกหัวสิบหัวงาน (คือนายของหมวด ๑ ๆ ซึ่งขึ้นกับนายประเพณีหัวหน้าของวัด) ชำระว่ากล่าวเด็ดขาดได้ ครั้งนั้นเจ้าเมืองพัทลุง (เห็นจะเปนพระยาธรรมรังคัล) ก็มาสร้างพระพุทธรูปเรียงไว้ ๗ องค์ณวัดเขียน (จะเปนพระที่เรียกกันว่า “พระกุลา” เปนพระสมาธิองค์ใหญ่อยู่กลางแจ้งก่อด้วยแลงเรียงไว้ห่าง ๆ กันราว ๑๐ หรือ ๑๕ วาบ้าง มีต้นไม้ใหญ่งอกแซกขึ้นที่ฐาน เดี๋ยวนี้พังทลายลงมากองอยู่ที่ฐานดินซึ่งพูน