หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๕) - ๒๔๖๒.pdf/32

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑


ครั้งนั้นพระราชอาณาจักรก็เปนจลาจล ต่างคนก็ตั้งตัวขึ้นเปนเจ้าเอกราช ฝ่ายเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชก็ถึงอนิจกรรม พระปลัดจึงตั้งตัวขึ้นเปนเจ้านครศรีธรรมราช ให้หลานชายมาเปนผู้ว่าราชการเมืองพัทลุง ตั้งเมืองที่ท่าเสม็ด นัยหนึ่งเรียกว่าตำบลปราน กับให้กรมการไปเปนหลวงสงขลารักษาปากน้ำเมืองพัทลุงด้วยผู้ว่าราชการเมืองพัทลุง ว่าราชการอยู่ ๒ ปี ถึงแก่กรรม

แล้วเจ้านครให้พระยาพิมลขันธ์ ผัวท้าวเทพสัตรีเมืองถลาง มาเปนผู้ว่าราชการเมืองพัทลุง (แต่เวลานั้นแตกร้าวกันกับท้าวเทพสัตรี แลท้าวเทพสัตรียังไม่มีชื่อ ด้วยพม่ายังไม่มาตีเมืองถลาง) พระยาพิมลขันธ์ตั้งเมืองที่ตำบลควนมะพร้าว ภายหลังเรียกบ้านนั้นว่า “บ้านพระยาขันธ์” อยู่ในตำบลพระยาขันธ์เดี๋ยวนี้) ว่าราชการอยู่ ๒ ปี

ครั้น พ.ศ. ๒๓๑๑ (จ.ศ. ๑๑๓๐) ปีชวด พระเจ้าตากเสด็จขึ้นปราบดาภิเศกเปนพระเจ้าแผ่นดินในกรุงธนบุรีแล้ว ถึงปีฉลู เอกศก พ.ศ. ๒๓๑๒ (จ.ศ. ๑๑๓๑) เสด็จมาตีเมืองนครศรีธรรมราชได้ พระยาพิมลขันธ์มีความกลัว หนีไปเมืองแขกกับด้วยเจ้านครฯ ครั้นพระเจ้าตากได้ตัวเจ้านครมาจากเมืองแขกปัตตานีแล้ว ก็เสด็จกลับกรุงธนบุรี ส่วนเมืองนครฯ แลเมืองพัทลุงนั้น โปรดให้พระเจ้า