หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๕) - ๒๔๖๒.pdf/38

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๗

ตำบลลำปำ จังหวัดพัทลุง (กิริยาแลผิวพรรณก็ไทยนี้เอง) ชาวเมืองมีความนับถือมาก แม้มีการโกนจุกหรือทำบุญสวดมนต์เรือน ก็เชิญพราหมณ์ไปทำพิธีสวดทางวิษณุอิศวรเวชด้วยเสมอ

ครั้นพระยาพัทลุง (คางเหล็ก) ถึงอนิจกรรมแล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีไกรลาศ คนกรุงครั้งพระเจ้าตาก ให้อยู่ช่วยราชกา พระเจ้าหลานเธอ เจ้านราสุริยวงษ์ ณเมืองนครศรีธรรมราชนั้น มาเปนผู้ว่า ราชการเมืองพัทลุง ตั้งเมืองที่บ้านลำปำที่ตำบลศาลาโต๊ะวัด ๒ ปี

ครั้นปีกุน ตรีศก พ.ศ. ๒๓๓๔ (จ.ศ. ๑๑๕๓) แขกโต๊ะหะยีเมืองเซียะกับแขกเมืองปัตตานีรวมกันมาตีเมืองสงขลาได้ พระยาสงขลาหนีมาอาศรัยเมืองพัทลุง เจ้าพระยานครฯ ทราบความก็ยกทัพมารบตีเอาเมืองสงขลากลับคืนได้ แล้วภายหลังกองทัพกรุงยกมาถึงเมืองสงขลา แต่หาทันได้รบกันไม่ ฝ่ายพระยาศรีไกรลาศผู้ว่าราชการเมืองพัทลุงมีความตื่นตกใจกลัวพาครอบครัวหนีเข้าป่าก่อนศึกมาติดเมือง จึงโปรดเกล้าฯ ให้ข้าหลวงออกมาถอดจากเจ้าเมืองแล้วจำส่งไปกรุงเทพฯ

ในปีกุน ตรีศก พ.ศ. ๒๓๓๔ (จ.ศ. ๑๑๕๓) นั้น โปรดเกล้าฯ ให้หลวงนายศักดิ์ (ทองขาว) นายเวรมหาดเล็กบุตรพระยาพัทลุง (คางเหล็ก) ซึ่งเปนแม่กองออกมาในกองทัพกรุงครั้งนั้น อยู่รั้งเมืองพัทลุง แลในปีนั้นโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระยาสงขลา (บุญฮุย) ขึ้นเปนเจ้าพระยาสงขลาด้วยเห็นว่าเปนเมืองสำคัญหลวงนายศักดิ์ว่ารั้งอยู่ ๒ ปี ถึง