ตำบลลำปำ จังหวัดพัทลุง (กิริยาแลผิวพรรณก็ไทยนี้เอง) ชาวเมืองมีความนับถือมาก แม้มีการโกนจุกหรือทำบุญสวดมนต์เรือน ก็เชิญพราหมณ์ไปทำพิธีสวดทางวิษณุอิศวรเวชด้วยเสมอ
ครั้นพระยาพัทลุง (คางเหล็ก) ถึงอนิจกรรมแล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีไกรลาศ คนกรุงครั้งพระเจ้าตาก ให้อยู่ช่วยราชกา พระเจ้าหลานเธอ เจ้านราสุริยวงษ์ ณเมืองนครศรีธรรมราชนั้น มาเปนผู้ว่า ราชการเมืองพัทลุง ตั้งเมืองที่บ้านลำปำที่ตำบลศาลาโต๊ะวัด ๒ ปี
ครั้นปีกุน ตรีศก พ.ศ. ๒๓๓๔ (จ.ศ. ๑๑๕๓) แขกโต๊ะหะยีเมืองเซียะกับแขกเมืองปัตตานีรวมกันมาตีเมืองสงขลาได้ พระยาสงขลาหนีมาอาศรัยเมืองพัทลุง เจ้าพระยานครฯ ทราบความก็ยกทัพมารบตีเอาเมืองสงขลากลับคืนได้ แล้วภายหลังกองทัพกรุงยกมาถึงเมืองสงขลา แต่หาทันได้รบกันไม่ ฝ่ายพระยาศรีไกรลาศผู้ว่าราชการเมืองพัทลุงมีความตื่นตกใจกลัวพาครอบครัวหนีเข้าป่าก่อนศึกมาติดเมือง จึงโปรดเกล้าฯ ให้ข้าหลวงออกมาถอดจากเจ้าเมืองแล้วจำส่งไปกรุงเทพฯ
ในปีกุน ตรีศก พ.ศ. ๒๓๓๔ (จ.ศ. ๑๑๕๓) นั้น โปรดเกล้าฯ ให้หลวงนายศักดิ์ (ทองขาว) นายเวรมหาดเล็กบุตรพระยาพัทลุง (คางเหล็ก) ซึ่งเปนแม่กองออกมาในกองทัพกรุงครั้งนั้น อยู่รั้งเมืองพัทลุง แลในปีนั้นโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระยาสงขลา (บุญฮุย) ขึ้นเปนเจ้าพระยาสงขลาด้วยเห็นว่าเปนเมืองสำคัญหลวงนายศักดิ์ว่ารั้งอยู่ ๒ ปี ถึง