หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๕) - ๒๔๖๒.pdf/44

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๓

กันอิก พงษาวดารเมืองไทรว่า เปนปีวอก อัฐศก (จ.ศ. ๑๑๙๘) ตวนกูเด็นตีเมืองไทรได้)

ฝ่ายแขกเมืองปัตตานีทั้ง ๗ หัวเมืองมีความกำเริบมาตีเมืองสงขลา ครั้นเจ้าพระยานครทราบว่ าพวกแขกปัตตานีมาตีเมืองสงขลา ก็ยกทัพออกจากเมืองไทรบุรีมาช่วยเมืองสงขลา พวกแขกก็แตกกลับไป แลครั้งนั้นโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ) ซึ่งเปนสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงษ์ในรัชกาลที่ ๔ (ที่เรียกกันว่าสมเด็จองค์ใหญ่) เปนแม่ทัพยกมาปราบเมืองไทรแลเมืองปัตตานี มาถึงเมืองสงขลาในปีมะโรง จัตวาศก พ.ศ. ๒๓๗๕ (จ.ศ. ๑๑๙๔) แต่หาได้รบไม่ ด้วยแขกแตกไปหมดแล้ว แล้วตั้งพักอยู่ที่เมืองสงขลา จัดราชการเมืองแขกเรียบร้อยแล้ว ให้ก่อพระเจดีย์ไว้ที่บนเขาแดงองค์หนึ่ง แล้วกลับกรุงเทพฯ แลในปีเถาะ ตรีศก ระหว่างศึกเมืองไทรนั้น ราษฎรทำนาไม่ได้ผลถึง ๒ ปี ด้วยน้ำท่วมเข้าเสียมาก เข้าแพง ซื้อขายกัน ๓ หรือ ๔ ทนานต่อเหรียญนอก คือ ๖ สลึงเฟื้อง เอามาหุงปนกับเผือกมันบุกกลอยบ้าง หัวกล้วยบ้าง ที่ไม่มีเข้าปนเลยก็มี พลเมืองอดเข้าล้มตายในครั้งนั้นมากนัก ที่อพยพครอบครัวไปอยู่ต่างเมืองก็มาก

ครั้นต่อมา พ.ศ. ๒๓๘๑ (จ.ศ. ๑๒๐๐) ต้นปีจอ สัมฤทธศก พวกหัวเมืองเข้าไปในงานพระเมรุสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระพันปีหลวง