หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๕) - ๒๔๖๒.pdf/48

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๗

นั้นเมื่อเสร็จศึกแขกแล้ว เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ถึงอสัญญกรรม โปรดเกล้าฯ ให้พระเสน่หามนตรี (น้อยกลาง) บุตรที่ ๒ เจ้าพระยานครน้อยเปนพระยานครแทนบิดา กับโปรดให้เรียกพระยาอุทัยธรรมผู้ว่าราชการเมืองพัทลุงเข้าไปรับราชการอยู่กรุงเทพฯ ในปีกุน เอกศก พ.ศ. ๒๓๘๒ (จ.ศ. ๑๒๐๑) พระยาอุทัยธรรมว่าราชการอยู่ ๑๓ ปี แล้วโปรดเกล้าฯ ตั้งให้พระปลัด (จุ้ย) เปนพระยาอภัยบริรักษ์จักราวิชิตพิพิธภักดีพิริพาหะผู้สำเร็จราชการเมืองพัทลุง แลโปรดเกล้าฯ ให้ยกที่พระโคะ คือ จะทิ้งพระ เมืองเก่าของพัทลุง ซึ่งเปนอำเภอจะทิ้งพระ จังหวัดสงขลาเดี๋ยวนี้ กับตำบลพังลา ไปเปนแขวงเมืองสงขลาแต่นั้นมา พระยาพัทลุง (จุ้ย) คนนี้เปนบุตรเจ้าพระยาสุรินทรราชา (จันทร์) ผู้เปนต้นสกูลจันทโรจวงษ์ซึ่งในรัชกาลที่ ๑ กรุงเทพฯ โปรดเกล้าฯ ให้ออกมาเปนข้าหลวงสำเร็จราชการอยู่ณเมืองถลางกำกับราชการหัวเมืองทะเลหน้านอก ๘ หัวเมือง คือ มณฑลภูเก็จเดี๋ยวนี้ เจ้าพระยาสุรินทราชา (จันทร์) ผู้นี้เปนบุตรที่ ๓ เจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ (อู่) ผู้มีชื่อเสียงในแผ่นดินพระบรมราชา “พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษ” ครั้งกรุงเก่า แลเปนบุตรเรียงพี่เรียงน้องกับท่านเจ้าขรัวเงินซึ่งภายหลังมาปรากฎนามว่าท่านขรัวก๋งทางฝ่ายมารดา แลเจ้าพระยาสุรินทราชา (จันทร์) มีน้องชายอิกหลายคนได้สืบบุตรหลานแตกออกเปนสกูล (ภูมิรัตน์) สายหนึ่ง สกูล (บุญศิริ) สายหนึ่ง สกูล (ศิริวัฒนกุล) สายหนึ่ง