หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/24

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๒

ความปรากฎในพงศาวดารพม่าว่า เมื่อพระเจ้าปดุงเสวยราชย์ครองแผ่นดินพม่ามาได้ราว ๒๕ ปี เกิดเบื่อหน่ายในการทำสงคราม แปรพระอัธยาศรัยไปประสงค์จะเปนอรรคสาสนูปถัมภก ให้คิดแบบอย่างจะสร้างพระมหาสถูปที่เมืองเมงกูนองค์ ๑ จะให้ใหญ่โตยิ่งกว่าพระสถูปที่มีณะที่ไหน ๆ ทั้งสิ้น พระเจ้าปดุงให้กะเกณฑ์ผู้คนพลเมืองทั้งในหัวเมืองพม่าแลเมืองขึ้นทั้งปวงให้ผลัดเปลี่ยนกันไปเข้าเวรสร้างพระมหาสถูปนั้นคราวละหลายหมื่นคน ส่วนพระองค์นั้นก็มอบราชการบ้านเมืองให้พระมหาอุปราชบังคับบัญชา แล้วไปประทับพลับพลาทรงอำนวยการสร้างพระมหาสถูปอยู่ที่เมืองเมงกูน ในระยะนี้ที่พระเจ้าปดุงให้ราชทูตเชิญพระราชสาสนเข้ามาเมืองไทย ชวนเปนไมตรีเลิกการที่จะรบพุ่งกันต่อไป

ตามความที่ปรากฎในคำเสนาบดีเล่าให้เฮนรีเบอร์นีฟังกล่าวว่า ข้างฝ่ายไทยในครั้งนั้น เสนาบดีคิดวิตกอยู่ว่า พระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระชราทุพลภาพมากอยู่แล้ว จึงปฤกษาเห็นพร้อมกันว่าควรจะรับเปนไมตรีกับพม่า (กล่าวไว้เพียงเท่านี้ รายการต่อไปหาได้กล่าวไม่ จะต้องว่าต่อไปโดยสันนิษฐานตามเหตุการณ์ที่ปรากฎ) จึงโปรดฯ ให้ทูตไทยไปตอบแทนพม่า ทูตไทยจึงได้ไปเฝ้าพระเจ้าปดุงที่เมืองเมงกูนเมื่อเดือน ๓ แรม ๗ ค่ำ ดังกล่าวไว้ในพงศาวดารพม่า