หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/86

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๔

ความคิดท่านเสนาบดีก็ย่อมแต่งตั้งพระมหาเถรเจ้าองค์นั้นให้มีอิศริยยศ บันดาศักดิอย่างใหญ่อย่างสูงกว่าพระสงฆ์ทั้งปวง เรียกนามว่าพระสังฆราช เยี่ยงอย่างนี้มีมานาน ครั้นเมื่อถึงรัชกาลแผ่นดินปัจจุบันนี้ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยามได้ทรงสังเกตการเก่าที่มีมาในพระบาฬีอรรถกถาโดยเลอียดแล้ว ทรงปฤกษาด้วยพระสังฆเถรานุเถรผู้รู้พระปริยัติธรรม แลนักปราชญ์ราชบัณฑิตเปนอันมากเห็นพร้อมกันว่า คำว่าราชานี้ไม่ควรจะใช้เปนชื่ออันควรจะเรียกจะให้แก่บรรพชิตอื่นนอกจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย เพราะในบาฬีแลคัมภีร์อรรถกถาฎีกาใช้แต่พระนามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียว เรียกบางแห่งว่าธรรมราชา ถึงฤาษีมุนีนอกจากพระสาสนาจะชื่อว่าราชิสีก็มีแต่พระเจ้าทัฬหเนมี พระเวสสันดร เปนต้น ซึ่งเปนพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ก่อนแล้วออกทรงผนวช จึงได้นามเดิมมาเรียกบ้าง อย่างในจักรวัตติสูตรแลชาดกว่าราชฤาษี แต่ในพระพุทธสาสนาแล้ว ถึงท่านที่เปนเจ้าแผ่นดินมาแต่เดิม อย่างพระเจ้ามหากบิลราช พระเจ้าภัททิยราช พระเจ้าปุกกุสาติราช เปนต้น เมื่อได้ออกทรงบรรพชาแล้ว มีแต่นามว่าพระมหากบิลเถร พระภัททิยเถร พระปุกกุสาติภิกษุ ไม่ได้ปรากฎนามว่าราชาเลย ตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานมาแล้วถึงพระมหากัสสป พระสัพพกามิเถร แลพระโมคลีบุตรดิศเถร ซึ่งเปนใหญ่เปนประธานในการปฐมทุติยตติยสังคายนายก็ดี พระมหินทเถรซึ่งเปนพระราชโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราชออกไป