หน้า:ประชุม กม ประจำศก (๐๔) - ๒๔๗๘.pdf/46

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๔

ต้องไปเปนเปรตวิไสยมีควันไฟพลุ่งออกจากทางปากจมูกเป็นนิจ เพราะเสพย์ผลที่ตนสูบฝิ่นกินฝิ่นผิดเป็นมิฉาชิจร ไม่เห็นทุกขโทษในอนาคตประจุบัน ครั้นจะละไว้ บุคคลที่เป็นพาลสันดานทุจริตก็คบคิดกันลักลอบซื้อฝิ่นขายฝิ่นสูบฝิ่นกินฝิ่นแลจะทำโจรกำ ๆ เริบล่วงเกินพระราชอาญา จะไปทนทุกขเวทนาในอบายภูมิเป็นอันมาก จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ เหนือกระหม่อมสั่งให้มีตราพระราชบัญญัติไว้ เพื่อจะได้เป็นหิตานุหิตประโยชน์ หนึ่ง จะทรงพระราชสมเคราะห์ช่วงรงับดับทุกขโทษแห่งคนร้ายในอนาคตประจุบัน แลในพระราชบริหารบัญญัตินั้นว่า แต่นี้สืบไปเมื่อหน้า ห้ามอย่าให้ผู้ใดสูบฝิ่นกินฝิ่นซื้อฝิ่นขายฝิ่น แลเป็นผู้แสมซื้อสมขายเป็นอันขาดทีเดียว ถ้ามิฟังจับได้แลมีผู้ร้องฟ้องพิจารณาเป้นสัจ จะให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนสามยก ทเวนบกสามวัน ทเวนเรือนสามวัน ริบราชบาตบุตรภรรยาแลทรัพย์สิ่งของให้สิ้นเชิง ให้ส่งตัวไปเป็นตะพุ้นหญ้าช้าง ผู้รู้เห็นเป็นใจมิได้เอาความมาว่ากล่าว จะให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนหกสิบที ถ้าผู้ใดมีฝิ่นอยู่ก่อนยังมิได้ห้ามปรามมากน้อยเท่าใดจะขาย ก็ให้เร่งเอาออกไปขายแก่นา ๆ ประเทศเมืองนอกให้พ้นแว่นแคว้นกรุงเทพฯ แลให้ร้อยแขวงกรมการนายบ้านนายอำเภอประกาศป่าวร้องอณาประชาราษฎรลูกค้าวานิชทั้งปวงให้รู้จงทั่ว แลให้กระทำตามพระราชกำหนดกฎหมายนี้จงทุกประการ ผู้ใดมิฟัง จับได้ จะเอาตัวเป็นโทษโดยโทษารณุโทษ

กฎให้ไว้ณวันเสาร์ เดือนเก้า ขึ้นสิบสี่ค่ำ จุลศักราชพันร้อยเจ็ดสิบสาม ปีมแม ตรีศก

(คัดจากต้นฉะบับตัวอักษรเขียนของหอพระสมุดวชิรญาณ เลขที่ ๑๑๖)