หน้า:ประวัติฯ ศรีสุริยวงศฯ - ดำรง - ๒๔๗๒.pdf/21

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔

เปลี่ยนรัชชกาล[1] จึงเรียกระดมพวกข้าในกรมเข้ามารักษาพระองค์ ที่ในวังเชิงสะพานหัวจรเข้ไม่พอให้คนอยู่ ต้องให้ไปอาศัยพีกอยู่ตามศาลาในวัดพระเชตุพน ความนั้นทราบถึงสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ แต่ยังสงสัยอยู่ จึงให้บุตร ๒ คน[2] ไปดูที่วัดพระเชตุพนว่า จะจริงอย่างว่าหรือฉันใด ก็ไปเห็นผู้คนมีอยู่ตามศาลามากผิดปกติ ไต่ถามได้ทราบว่า เป็นข้าในกรมขุนพิพิธภูเบนทร์ทั้งนั้น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์จึงเรียกสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศมาปรึกษาว่า จะทำอย่างไรดี สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศเรียนว่า ขอให้สงบไว้สักวันหนึ่งก่อน ในวันนั้น ท่านรีบลงไปยังเมืองสมุทรปราการ เรียกพวกทหารปืนเล็กเอาลงบรรทุกเต็มเรือกำปั่นลำหนึ่งแล่นขึ้นมาในกลางคืน พอเช้าถึงกรุงเทพฯ ให้เรือทอดสมอที่ตรงท่าเตียน แล้วตัวท่านก็ไปเฝ้ากรมขุนพิพิธภูเบนทร์ทูลว่า บิดาให้มาทูลถามว่า ที่ทรงระดมผู้คนเข้ามาไว้มากมายเช่นนั้น มีพระประสงค์อย่างใด กรมขุนพิพิธฯ ตรัสตอบว่า ด้วยเกรงภัยอันตราย[3] จึงเรียกคนมาไว้เพื่อจะป้องกันพระองค์ สมเด็จเจ้า


  1. เรื่องตอนที่จะกล่าวต่อไปนี้ เจ้าพระยาภาณุวงศฯ ท่านเล่าให้ฟัง
  2. คือ พระยามนตรีสุริยวงศ (ชุ่ม) เมื่อยังเป็นนายพลพันหุ้มแพร คน ๑ กับเจ้าพระยาภาณุวงศฯ เมื่อยังเป็นมหาดเล็ก คน ๑
  3. คำว่า ภัยอันตราย ในสมัยนั้น หมายความได้กว้างออกไปจนถึงเช่น เกิดโจรผู้ร้ายกำเริบขึ้นในพระนคร หรือเกิดแย่งชิงราชสมบัติกันเมื่อพระเจ้าแผ่นดินสวรรคต