กุลนั้นสนิทแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ชาติกุลมีประมุขอันมีอำนาจเหนือบรรดาหัวหน้าครอบครัว ในตอนต้น อำนาจของประมุขยังอ่อนอยู่ เป็นแต่หัวหน้าผู้หนึ่งซึ่งมีกำลังบริวารมากกว่าผู้อื่น แต่ในประเทศชาติที่เจริญ อำนาจของประมุขนั้นกว้างขวางมั่นคงขึ้นเป็นลำดับ และสามารถที่จะตั้งลูกหลานสืบกันต่อไปได้ เป็นเหตุให้อำนาจของหัวหน้าครอบครัวหย่อนลง ในบางแห่งประมุขเข้าสวมสิทธิของหัวหน้าครอบครัวได้บางประการโดยถือชาติกุลเสมือนหนึ่งว่าเป็นครอบครัวของตน และปกครองบ้านเมืองตามอย่างหัวหน้าบริหารกิจการแห่งครอบครัว ประมุขจึงได้เป็นผู้ถือที่ดินอยู่ในบังคับบัญชาของตนแต่ผู้เดียวแทนหัวหน้าทั้งหลาย ต่อมาเมื่อชาติกุลรวมเป็นประเทศชาติใหญ่ การปกครองหนักแน่นยิ่งขึ้น เป็นเหตุให้อำนาจของครอบครัวโทรมลงไปอีก และบุคคลแต่ละคนเริ่มมีสิทธิโดยฉะเพาะ ในชุมนุมที่ยังถือกรรมสิทธิร่วมกันของครอบครัว หัวหน้าไม่มีอำนาจเด็ดขาดเหมือนแต่ก่อน ต้องปรึกษาสมาชิกผู้อื่น และบางทีก็ต้องยอมแบ่งปันที่ดินให้แก่สมาชิกด้วย กรรมสิทธิของเอกชนจึงแพร่หลายขึ้น
3.แต่กรรมสิทธิที่เกิดขึ้นนี้มีลักษณะต่างกันกับกรรมสิทธิในสังหาริมทรัพย์เป็นอันมาก ทั้งนี้ก็เพราะเหตุหลายประการ ในเบื้องต้น ที่ดินมีมาก และคนยังมีน้อย ฉะนั้น หากใคร ๆ ต้องการที่เพื่อปลูกเรือนหรือทำการเพาะปลูก ก็มีแต่จะไปหาที่ในป่า แล้วแผ้วถางโก่นสร้าง ที่จึงเป็นของตน แต่ทว่า ถ้าเจ้าของอพยพออกจากที่หรือเลิกทำประโยชน์เสียแล้ว ที่ก็กลับเป็นของกลาง ผู้หนึ่งผู้ใดจะเข้าทำต่อไปก็ได้ ในสมัยโบราณ กรรมสิทธิไม่แยกออกจากการครอบครอง เจ้า