หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/11

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
8
ปัญญาสชาดก

ได้มาชำระถากถางที่อันนี้ไว้สำหรับให้แก่พากุลกุมารผู้เดียว ปักหนังสือแล้วก็กลับไปยังเทวโลก

ปุนทิวเส ครั้นเวลารุ่งเช้า พากุลกุมารบริโภคอาหารแล้วจึงเรียกสุนักไปสู่ที่นั้น ครั้นได้เห็นที่อันแผ้วถางเตียนเปนอันดี ก็เสียใจด้วยนึกว่า มีผู้มาชำระชิงครอบครองเสียแล้ว จึงแลดูไปในทิศต่าง ๆ ก็ได้เห็นหนังสือที่เขียนปักไว้ เข้าไปอ่านดูรู้ว่า ท้าวสักกเทวราชมาชำระไว้ให้ ก็มีใจโสมนัสยินดี จึงกลับมาเรือน เมื่อต้นไม้ใบหญ้าที่แผ้วถางไว้นั้นแห้งดีแล้ว ก็เอาไฟไปจุดทำให้เตียนเปนที่นา จึงหว่านเข้าเปลือกลงในที่นั้น แล้วก็กลับมาเรือนอีก จึงจัดแจงรวบรวมทรัพย์สิ่งของเก็บงำซ่อนฝังดีแล้ว ก็ไปยังที่นานั้นกับลูกสุนัข จึงปลูกเรือนเปนกระท่อมลงในที่นานั้น แล้วอยู่เฝ้าเข้าเปลือกในนาของตน ครั้นเข้าในนานั้นเกิดผลมีรวงเต็มบริบูรณด้วยอานุภาพแห่งกระโหลกศีร์ษะของบิดา ก็ทำการเก็บเกี่ยวกองเปนลอมขึ้นไว้ ภายหลัง พากุลกุมารโพธิสัตว์นั้นจะใคร่รักษาอุโบสถศีล จึงจัดแจงอาบน้ำชำระกายแต่เวลาเช้า แล้วสมาทานศีลพร้อมด้วยองค์แปดประการ ครั้นสมาทานถือมั่นแล้ว ก็พิจารณาใคร่ครวญดูศีลที่ตนรักษา เมื่อเห็นว่า ศีลของตนบริสุทธิ์บริบูรณดีแล้ว ก็เกิดความปีติโสมนัส จึงคิดว่า เรานี้อนาถาเปนคนผู้เดียวหาญาติกามิได้ จะมาอยู่กลางทุ่งกลางป่าดังนี้ ที่ไหนเราจะได้ภรรยากับเขาบ้าง คิดแล้วก็เกิดความสลดใจ จึงปริวิตกต่อไปว่า โอ้ตัวของเรานี้เปนคนผู้เดียวแท้ ๆ มารดาบิดาแลญาติสาโลหิตมิตรสหายก็มิได้มีเลย เรานี้มีแต่ลูกสุนัขตัวเดียวอยู่เปนเพื่อน ถ้าเกิดพยาธิป่วยไข้