หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/26

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
23
๕๐ พากุลชาดก

ไปอยู่ในกลองใหญ่ แล้วให้นำเอากลองนั้นไปวางไว้ณที่เรือนของพากุลกุมาร ผัวเมียทั้งสองเห็นกลองนั้น ก็จะพูดปรึกษาหารือกันอย่างใดอย่างหนึ่ง ราชบุรุษที่อยู่ในกลองได้ยินผัวเมียพูดกันอย่างไร ก็คงจะมาบอกตามคำที่พูดกันนั้น เมื่อได้ฟังคำพูดของผัวเมียทั้งสองก่อนแล้ว จึงค่อยคิดอุบายต่อภายหลัง พระเจ้าพาราณสีได้ทรงฟัง เห็นชอบด้วย จึงรับสั่งให้ราชบุรุษคนหนึ่งเข้าไปอยู่ในกลองใหญ่ แล้วตรัสบังคับอำมาตย์ผู้หนึ่งว่า ดูกรพระนาย ท่านจงนำเอากลองใหญ่นี้ไปตั้งไว้ณเรือนของพากุลกุมาร

อำมาตย์นั้นรับพระราชโองการแล้ว จึงให้คน ๘ คนยกเอากลองใหญ่ไปยังนาของพากุลกุมาร แล้วพูดว่า ดูกรพากุลกุมาร ถ้ากลองนันทเภรีใบนี้ตั้งอยู่ในเรือนของผู้ใด มาทว่าสักคืนเดียวเท่านั้น ผู้เจ้าของเรือนนั้นจักบริบูรณด้วยบุตรแลธิดา บัดนี้ พระราชาทรงพระเมตตาท่าน มีรับสั่งให้เรานำเอากลองนี้มาตั้งไว้ในเรือนท่าน

พากุลกุมารได้ฟังดังนั้นจึงรับว่า เปนการดีแล้ว ท่านจงให้ตั้งไว้ภายในเรือนของเราเถิด อำมาตย์ราชบุรุษก็ยกกลองขึ้นตั้งไว้ในเรือนของพากุลกุมาร แล้วก็พากันกลับยังบ้านเรือนของตน ๆ

ฝ่ายสามีภรรยาทั้งสองนั้นมิทันที่จะได้พิจารณาดูกลองให้ถ้วนถี่ ครั้นเวลามัชฌิมยามก็ลุกขึ้นสนทนากัน นางสุขุมาอัณฑานั้นจึงพูดขึ้นก่อนว่า ข้าแต่สามี ถ้าหากว่าท่านบริโภคฟองไข่ของสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงไซร้ ข้าพเจ้าก็จักมีความเร่าร้อน ไม่สามารถที่จะยืนจะนั่งนอนได้ เมื่อเปนดัง นี้ข้าพเจ้าก็จะต้องลาท่านไปบ้านเมืองของข้าพเจ้า