หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/32

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
29
๕๐ พากุลชาดก

พระโพธิสัตว์เห็นสุนัขทำกาลกิริยาตาย ก็ไม่สามารถที่จะอดกลั้นความโศกไว้ได้ ก็ร้องไห้ปริเทวนาการรำพรรณด้วยวาจา จึงกล่าววิลาปคาถาทั้งหลายว่า

อโห ทุกฺขํ โข วตาหํ อยํ สหาโย มมญฺจ
อิทานิ โก สหาโย จ กถํ โข เอโกว คจฺฉติ
สุนข มม สหาย กุหึ เอกโก คโตสิ
อิทานาหํ คมิสฺสามิ เกน มคฺเคน วิจรนฺโต
หทยปริฬาโหหํ กถํ หทยํ วูปสเม ฯ

ความว่า โอเรานี้ประกอบไปด้วยความทุกข์จริงหนอ สุนัขตัวนี้เปนเพื่อนของเราด้วย ที่นี้ ใครเล่าจะเปนเพื่อนของเรา เราจะได้ใครเปนเพื่อนเดิรทางในกลางมรรคา เราผู้เดียวเท่านั้นจะไปตามนางสุขุมาอัณฑาอย่างไรได้ ดูกรสุนัขผู้เปนสหายของเรา เจ้ามาทิ้งเราไว้ไปแต่ผู้เดีย วเจ้าไปอยู่ณที่ไหน บัดนี้ เราจะเที่ยวไปโดยหนทางอะไรเล่า เรานี้มีหทัยอันเร่าร้อนเหลือที่จะทนทาน ใครจะพึงระงับความกระวนกระวายของเราได้ เราเปนคนอนาถาแท้ ๆ เที่ยวอยู่แต่ผู้เดียว ไม่มีใครเปนเพื่อนในหนทางอันเปลี่ยวเลย

ฝ่ายหมู่ญาติทั้งหลายของพากุลกุมารโพธิสัตว์ ซึ่งตายไปอุบัติบังเกิดในดาวดึงสพิภพนั้นมีอยู่ เพราะเหตุฉนั้น เทวบุตรผู้เปนญาติองค์หนึ่งเห็นพากุลกุมารร่ำปริเทวนาการอยู่อย่างนั้น ก็มีจิตต์อันประถอบไปด้วยความกรุณา จึงลงมาจากเทวโลก นฤมิตอัตภาพ