หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/18

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
5
๓ สุวรรณสังขชาดก

อยู่มาวันหนึ่ง ท่านปาลกเสนาบดีเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระเจ้าพรหมทัต ถวายบังคม แล้วจึ่งกราบทูลว่า ข้าแต่พระมหาราช พระนางจันทาเทวีจะมีใจซื่อตรงต่อพระองค์ก็หาไม่ ย่อมไปเสพกามคุณกับชนชาติต่ำช้า พระนางจันทาเทวีนั้นประพฤติการหาสมควรไม่ เมื่อลับหลังพระองค์ไปแล้ว ประพฤติอนาจารเหมือนหญิงรุ่น ๆ สาวบ้าง เหมือนหญิงหม้ายบ้าง และหาเกรงกลัวพระราชอาชญาฝ่าพระบาทไม่ เห็นว่า พระนางจันทานั้นไม่ควรจะให้อยู่ในราชนิเวศน์ต่อไป เมื่อท่านปาลกเสนาบดีทูลยุยงอย่างนี้แล้วก็กลับไป พระนางสุวรรณจัมปากเทวีจึ่งสวนเข้าไปเฝ้าพระราชา ถวายบังคม แล้วทูลยุยงเสิมคำเสนาบดีอีกว่า ข้าแต่พระมหาราช ถ้อยคำของปาลกเสนาบดีที่กราบทูลนั้นหาเหลวไหลไม่ จริงทีเดียว นางจันทาเทวีนั้นจะตั้งใจบำเรอพระองค์ตามธรรมดาหามิได้ มักทำกรรมลามกด้วยบุรุษคนเลว นางจันทาเทวีมีครรภ์นั้นจะได้เกิดด้วยอำนาจสัมภวของพระองค์เดียวหามิได้ ย่อมสาธารณ์ทั่วไปกับบุรุษชาวเมืองด้วยกัน พระเจ้ากรุงพรหมทัตทรงสดับถ้อยคำปาลกเสนาบดีและนางสุวรรณจัมปากเทวีทูลบรรยายนั้น หาทรงวิจารณ์โทษของนางจันทาเทวีให้ได้ความเท็จจริงก่อนไม่ ทรงกริ้วกราดเป็นกำลัง จึ่งรับสั่งให้ขับไล่นางจันทาเทวีให้ไปเสียจากราชนิเวศน์เรือนหลวง

พระนางจันทาเทวีนั้นหาที่พึ่งบมิได้ ดำเนินพลางทางกรรแสงไห้ว่า แต่ก่อนเราทำอกุศลกรรมสิ่งใดไว้ จึ่งได้มาเสวยความทุกข์อย่างใหญ่ฉะนี้ พวกนักสนมและพนักงานทั้งหลายสดับฟังสำเนียงพระนางจันทาเทวีปริเทวนาดำเนินจากอิฏฐาคารกาลครั้งนั้น พากันร้องไห้ล้มกลิ้งเกลือก