หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/19

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
6
ปัญญาสชาดก

อยู่ไปมาเหมือนไม้รังอันถูกลมยุคันตวาตพัดผันให้ล้มระเนนไปฉะนั้น พระนางจันทาเทวีจึ่งทำอัญชลีกรแก่เทพดาผู้รักษาราชนิเวศน์ แล้วจึ่งมีเสาวนีย์ตรัสแก่พวกหญิงผู้สัมพันธวงศของตนว่า ท่านทั้งหลายจงอยู่ดีกินดีและอย่ามีความประมาท ดีฉันขอลาท่านทั้งหลายไปเสวยมหันตทุกข์ตามกรรมที่เราทำไว้ นางกล่าวร่ำลาดังนี้แล้วดำเนินไปแต่ผู้เดียวอนาถาหาที่พึ่งและเพื่อนมิได้

น่าสมเพชเวทนาพระนางจันทาเทวี เมื่อครั้งยังอยู่ในราชนิเวศน์อันสะพรั่งพร้อมด้วยอิฏฐาคาร พระนางเธอเคยทรงสุวรรณปาทุกาและสีวิกากาญจน อนึ่งเล่า พระนางเธอเคยประพรมสรีระกายด้วยน้ำหอมและจุณจันทน์ และเสยสางสระเกศด้วยน้ำมันหอมประดับกายงามสง่า ตั้งแต่นางถูกขับไล่ออกมา หามีเครื่องหอมประปรุงไม่ มีกายอันเหม็นสาบ เงื่อไหลอาบทั่วสรีราพยพ ขมกคะมอมไปด้วยละอองผงธุลี ดำเนินพลางปริเทวนาไปจนได้พบตายายสองคนเข้า

ตายายสองคนนั้น ครั้นเห็นพระนางจันทาเทวี จึ่งพากันเข้าไปใกล้ ไต่ถามว่า แน่ะนางผู้เจริญ แม่อยู่ที่ไหน ทำไมจึ่งอนาถามาคนเดียว นี่จะไปใหนต่อไป พระนางจันทาเทวีจึ่งบอกว่า ข้าแต่ท่านตายาย ดีฉันเป็นมเหษีฝ่ายขวาของพระเจ้าพรหมทัต ๆ โปรดปรานข้าพเจ้ามาก นางสุวรรณจัมปากเทวี มเหษีฝ่ายซ้าย เห็นดีฉันเป็นที่โปรดปรานของพระราชา แกล้งทูลยุยงให้พระราชาขับไล่ดีฉันเสียราชนิเวศน์ ตายายทราบเหตุแล้วนึกสมเพชและนึกดีใจ จึ่งพาพระนางจันทาเทวีมาเลี้ยงไว้ยังเรือน พระนางจันทาเทวีอาศัยตายายอยู่ต่อมาจนทรงครรภ์ได้หกเดือน