หน้า:ผีสางเทวดา (เสฐียรโกเศศ, 2495).pdf/13

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

แต่เติมคำว่า อารักษ์ แปลว่า ผู้รักษา เข้าด้วย เป็นเทวดาอารักษ์ หรือควบกันเป็นคำเดียวว่า เทพารักษ์ ผีชนิดที่กล่าวนี้จัดเข้าอยู่ในพวกผีธรรมชาติ

อีกพวกหนึ่ง เดิมเป็นคน ครั้นตายไปก็ไม่ไปไหน ยังสิงอยู่ในบ้านในเรือน ตามปรกติเป็นผีญาติผู้ใหญ่ของครอบครัว จึงเรียกว่า ผีบรรพบุรุษ หรือผีปู่ย่าตายาย

อีกพวกหนึ่ง เดิมเป็นคนเหมือนกัน แต่มักเป็นคนเก่งกล้าสามารถ เป็นคนมีบุญอย่างใหญ่แก่คนในหมู่ หรือเป็นคนดุร้ายกาจ เป็นที่กลัวเกรงแก่ใคร ๆ เมื่อตายไป คนยังนับถือและกลัวเกรงอยู่ ก็ไปเป็นผีมีศาล มีคนกราบไหว้ อย่างผีเจ้ากวนอูเป็นต้น ผีพวกนี้เรียกว่า ผีวีรบุรุษ

ผี ๓ พวกนี้เป็นพวกอยู่ระหว่างผีดี คือ เทวดา กับผีเลว จึงเป็นครึ่งผีครึ่งเทวดา แต่ยังจัดว่า เป็นฝ่ายผีดี คราวนี้ถึงพวกที่ ๔ ซึ่งเป็นพวกผีร้าย ผีเลว หรือผีชั้นสามัญ อันมีอยู่เป็นจำนวนมากในจำพวกผีด้วยกัน มีอยู่ทั่วไปทุกหัวระแหง ไม่มีชื่อยกย่องเป็นอย่างอื่น นอกจากเรียกว่า ผี หรืออ้ายผี ลางทีก็เรียกว่า ภูตผีปิศาจราชทูต ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่า ทำไมจึงมีคำ ราชทูต ต่อท้ายด้วย ผีพวกนี้เกะกะระรานเป็นพาล ไม่มีให้ดีแก่ใคร คนจึงกลัวยิ่งกว่าผีจำพวกอื่น เป็นทำนองเดียวกับผัวที่ดุร้าย เมียจึงกลัว ถ้าไม่ดุร้าย เมียจะกลัวทำไม มันเป็นผี แม้อย่างน้อยลางคราวจะไม่ทำร้ายใคร แต่ก็หลอกหลอนเล่นให้คนกลัวและตกใจ ที่คนถูกผีหลอก ก็คือ ผีจำพวกนี้ ตามปรกติมันมักให้ร้ายประตูเดียว จึงต้องคอยระวังป้องกันมันไว้ เผลอไม่ได้ ด้วยมันเป็นผีร้ายผีพาล ที่คำว่า ผี มีความหมายต้องตกต่ำพลอยให้ผีอื่นต้องเสียชื่อไปด้วย ก็เพราะผีร้ายนี้เป็นเหตุ คนจึงต้องหาคำอื่นมาใช้เรียกยกย่องผีดีว่า เป็นเทวดา เป็นเจ้า