ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๓).djvu/46

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ระหว่างเวลาจลาจล

ในขณะเมื่อกรุงยังไม่เสียแก่พม่านั้น ฝ่ายพระยากำแพงเพ็ชรยกทัพหนีไปจากกรุงแต่ในเดือนยี่ ปีจอ อัฐศก ได้รบกับพม่าซึ่งยกไปติดตามถึงสี่ครั้ง ครั้นพม่ายกกลับไปแล้ว จึงเดินทัพล่วงแขวงเมืองชลบุรีไปถึงตำบลนาเกลือ แขวงเมืองบางลมุง.

ขณะนั้นนายกลมเปนนายชุมนุมคุมไพร่พลอยู่ที่นั้น คอยสกัดจะต่อรบ แลพระยากำแพงเพ็ชร์ขึ้นขี่ช้างพลายถือปันนกสับรางแดง พร้อมด้วยพลทหารแห่แวดล้อมน่าหลัง ตรงเข้าไปในรวางพวกพลนายกลมซึ่งมาตั้งสกัดอยู่นั้น ด้วยเดชะบารมีบันดาลให้นายกลมเกรงกลัวเดชานุภาพ วางอาวุธเสียสิ้นทั้งพวกพล พากันเข้ามานอบนมอ่อนน้อมยอมเปนข้า แล้วนำทัพไปหยุดประทับณที่มีหนองน้ำ พระยากำแพงเพ็ชรจึงให้เงินตราห้าตำลึงเปนรางวัลแก่นายกลม แล้วให้โอวาทสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในยุติธรรมสุจริต.

ครั้นรุ่งขึ้นณวัน ค่ำ นายกลมจึงคุมไพร่หมื่นหนึ่งนำทัพไปถึงตำบลทับยา หยุดทัพแรมอยู่คืนหนึ่ง รุ่งขึ้นจึงเดินทัพมาถึงนาจอมเทียน แลทุ่งไก่เตี้ย สัตหีบ หยุดทัพแรมแห่งละคืน แล้วเดินทัพมาทางริมชายทเลถึงตำบลหินโขงแลน้ำเก่า เข้าแขวงเมืองระยอง หยุดทัพแรมแห่งละคืนตามรยะทางมา พระยากำแพงเพ็ชรจึงปฤกษากับนายทหารแลรี้พลทั้งปวงว่า กรุงเทพมหานครคงจะเสีย