ดำริห์จะปราบยุคเข็ญซึ่งเปนจลาจลให้สงบราบคาบแลจะก่อกู้กรุงเทพมหานครให้คืนคงเปนราชธานีมีพระราชอาณาเขตรปกแผ่ไปเปนแผ่นดินเดียวทั่วจังหวัดแว่นแคว้นแดนสยามประเทศเหมือนดังเก่า จึงดำรัศสั่งนายทัพนายกองทั้งปวงให้ตรวจเตรียมเรือรบครบด้วยพลโยธาสรรพาวุธปืนใหญ่น้อยแลเรือลำเลียงเสบียงอาหารให้พร้อมเสร็จ แล้วตั้งข้าหลวงเดิมผู้มีความชอบอยู่ครองเมืองจันทบูรแลเมืองระยองทั้งสองหัวเมืองนั้น.
๏ครั้นถึงณเดือนสิบเอ็จ ในปีกุญ นพศกนั้น จึงเสด็จยาตรา[1] พลทัพเรือร้อยลำเศษ พลทหารประมาณห้าพันยกจากเมืองจันทบูรมาทางทเล ได้ทราบข่าวว่า พระยาอนุราฐ เจ้าเมืองชล กับหลวงพล ขุนอินเชียง มิได้ละพยดอันร้าย กลับกระทำโจรกรรมออกตีชิงสำเภาแลเรือลูกค้าวานิชเหมือนแต่ก่อน มิได้ตั้งอยู่ในธรรโมวาทซึ่งมีพระประสาทสั่งสอนนั้น จึงให้หยุดทัพเรือนเข้าประทับณเมืองชลบุรี แล้วให้หาพระยาอนุราฐลงมาเฝ้าณเรือพระที่นั่ง ตรัศถามก็รับเปนสัตย์ จึงสั่งให้ขุนนางนายทหารไทยจีนจับพระยาอนุราฐประหารชีวิตรเสีย แลพระยาอนุราฐคงกระพันในตัว แทงฟันหาเข้าไม่ เพราะ[2] ด้วยสดือเปนทองแดง จึงให้พันธนาการแล้วเอาลงถ่วงน้ำเสียในทเล ก็ถึงแก่กรรม แล้วให้จับหลวงพลแลขุนอินเชียงซึ่งร่วมคิดกระทำโจรกรรมด้วยกันนั้นประหารชีวิตรเสีย จึงตั้งผู้มีความชอบเปนเจ้าเมืองกรมการขึ้นใหม่