หน้า:พระราชพงษาวดารฯ ฉบับหลวงประเสริฐฯ - ๒๔๕๐.pdf/23

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว
๒๐

หน่อยหนึ่ง แลเมื่อได้ชนช้างด้วยมหาอุปราชานั้น สมเด็จพระนารายน์บพิตรเปนเจ้าต้องปืนณพระหัดถ์ข้างขวาหน่อยหนึ่ง อนึ่ง เมื่อมหาอุปราชาขี่ช้างออกมายืนอยู่นั้น หมวกมหาอุปราชาใส่นั้นตกลงเถิงดิน แลเอาคืนขึ้นใส่เล่า ครั้งนั้น มหาอุปราชาขาดฅอช้างตายในที่นั้น แลช้างต้นพระญาไชยานุภาพซึ่งทรงแลได้ชนด้วยมหาอุปราชาแลมีไชยชนะนั้น พระราชทานให้ชื่อเจ้าพระญาปราบหงษา.

ศักราช ๙๕๕ มะเสงศก วัน ๑๐ ค่ำ เสด็จเถลิงพระมหาปราสาท ครั้งนั้น ทรงพระโกรธแก่มอญ ให้เอามอญเผาเสียประมาณ ๑๐๐ ณวัน ๑๐ ฯ  ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๖ บาท เสด็จพยุหบาตราไปเอาเมืองละแวก แลตั้งทัพไชยตำบลบางขวด เสด็จไปครั้งนั้น ได้ตัวพระญาศรีสุพรรณในวัน ค่ำนั้น.

ศักราช ๙๕๖ มะเมียศก ยกทัพไปเมืองสะโตง.

ศักราช ๙๕๗ มะแมศก วัน ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๙ บาท เสด็จพยุหบาตราไปเมืองหงษา ครั้งก่อน ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลม่วงหวาน เถิงวัน ๑๓ ค่ำ เพลาเที่ยงคืนแล้ว เข้าปล้นหงษามิได้ ทัพหลวงเสด็จกลับคืนมา.

ศักราช ๙๕๘ วอกศก วัน ค่ำ ลาวหนี ขุนจ่าเมืองรบลาวตำบลตะเคียนด้วน แลณวัน ค่ำ ฝนตกหนักหนาสามวันดุจฤดูฝน.

ศักราช ๙๖๑ กุญศก วัน ๑๑ ฯ  ๑๑ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๒ นาฬิกา ๘ บาท เสด็จพยุหบาตราไปเมืองตองอู ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลวัดตาล แลในเดือน ๑๑ นั้น สงกรานต์ พระเสาร์