หน้า:พิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีแดง 1606 2559.pdf/19

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙

จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เทียบเคียงได้กับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ อ.๙/๒๕๔๖

ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นพิพากษายกฟ้องของผู้ฟ้องคดี

ผู้ฟ้องคดีแก้อุทธรณ์ว่า โดยปกติก่อนขึ้นบนหอพัก ครูหอพักจะตรวจสิ่งของทุกอย่าง แต่เหตุใดนางสาวปรียาพร ทองไซร้ จึงเอาสุราและของขบเคี้ยวขึ้นไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ นางสาวจรี ใจตรง ครูประจำหอพักได้บังคับให้ผู้ฟ้องคดีลงลายมือชื่อในใบบันทึกรับสารภาพถึง ๔ ฉบับว่า ร่วมกันดื่มสุรา ทั้งที่ผู้ฟ้องคดีไม่ได้ดื่ม ในขณะที่คนอื่นทำเพียงฉบับเดียว และผู้บริหารสถานศึกษาได้แจ้งให้ย่าของผู้ฟ้องคดีทราบเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๑ ว่าผู้ฟ้องคดีกระทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนโดยร่วมกับพวกนำสุรามาดื่มกันในหอพัก โทษต้องออกจากหอพักและต้องออกจากโรงเรียนไปด้วย เพราะผู้ฟ้องคดีเป็นนักเรียนต่างจังหวัดต้องอยู่ประจำที่หอพักที่โรงเรียนจัดให้เท่านั้น เมื่อถูกลงโทษให้ออกจากหอพักก็เท่ากับขาดคุณสมบัติการเป็นนักเรียน เมื่อผู้ฟ้องคดียื่นอุทธรณ์แล้ว ได้มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและเรียกสอบสวนผู้ฟ้องคดีเพียงคนเดียว ในขณะที่มีผู้กระทำผิดถึง ๖ คน หลังจากนั้น ผู้ฟ้องคดีก็ได้รับหนังสือจากโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากสภาพการเป็นนักเรียนหอพักของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง การที่ผู้ฟ้องคดีต้องย้ายที่เรียนใหม่เพราะทนการบีบคั้นจากการพูดจากระทบกระทั่งไม่ไหว ทำให้มีความวิตกกังวล เสียสุขภาพจิต และการย้ายที่เรียนใหม่ทำให้ผู้ฟ้องคดีพลาดโอกาสในการสอบเข้าเรียนต่อสาขาดีๆ เพราะระเบียบการสอบมีว่าต้องเรียนอยู่ใโรงเรียนเดียวกันติดต่อกัน ๓ ปี

ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาให้ความเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของผู้ฟ้องคดีและนักเรียนคนอื่นที่อาจถูกกระทำในลักษณะดังกล่าวในวันข้างหน้าต่อไป


ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งพิจารณาคดี โดยได้รับฟังสรุปข้อเท็จจริงของตุลาการเจ้าของสำนวน และคำชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี

ศาลปกครองสูงสุดได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดี กฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว

/ข้อเท็จจริง...