หน้า:รายงานการประชุม สผ (๒๔๗๕-๐๘-๐๑).pdf/9

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๑

ทั้งฉะบับภาษาไทยก็ได้แปลมาเรียบร้อยจนใช้ได้ ก็อยากจะให้ผ่านไปโดยเร็ว เพื่อจะได้จัดพิมพ์ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายออกใช้เป็นพระราชบัญญัติต่อไป

พระยาปรีดานฤเบศร์ฯ กล่าวว่า อัตราภาษีที่จะเก็บ ๑/๔๘ แห่ง ๑ ใน ๑๐๐ นั้น ไม่มีความรู้ จึ่งขอมอบให้ไว้เป็นหน้าที่ของประธานคณะกรรมการราษฎร และจะไม่คัดค้าน แต่ขอแถลงว่า การที่จะเก็บภาษีเท่าใดก็ตาม ต้องระลึกว่า จะไม่ให้ราษฎรเดือดร้อน การเก็บภาษีแบงก์นั้น มิใช่ว่า แบงก์จะชักเนื้อตัวเองเช่นก่อนแบ่งเงินปันผล ๑๐๐ เปอรืเซนต์ ครั้นต้องเสียภาษี มิใช่ว่า จะคงเหลือ ๙ เปอร์เซนต์ก็หาไม่ แบงก์ก็จะต้องไปเรียกเงินเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเพื่อได้เงินมาชดเชยในส่วนที่เสียภาษีไป เหตุนี้ ข้อเดือดร้อนก็น่าจะตกอยู่กับราษฎรลูกค้าของแบงก์ ฉะนั้น จึ่งขอเสนอให้สภาระลึกข้อนี้ไว้ นอกจากนี้ ยังสงสัยอยู่อีก ๒–๓ ข้อ เช่น ในมาตรา ๕ (๔) วรรคที่ ๒–๓ ที่ว่า "เงินทุนทิไช้นั้น หมายความรวมทั้ง เงินทุนที่ผู้ถือหุ้นได้ส่งแล้ว กำไรที่ยังไม่ได้แบ่ง เงินเหลือ และเงินสำรอง

"แต่จำนวนเงินทุนซึ่งธนาคารรับฝากเงินอันเป็นสาขาแห่งธนาคารต่างประเทศไปในเดือนหนึ่ง ๆ เพื่อประโยชน์แห่งการประเมิน ให้ถือว่า เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐ ละ ๒๕ แห่งจำนวนถัวเฉลี่ยนของเงินที่รับฝากในเดือนเดียวกัน"

๑๑