หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
นิราศเดือน
โอ้ฤดูเดือนห้าหน้าคิมหันต์ | ||
พวกมนุษย์สุดสุขสนุกครัน | ได้ดูกันพิศวงเมื่อสงกรานต์ | |
ทั้งผู้ดีเข็ญใจใส่อังคาส | อภิวาทพุทธรูปในวิหาร | |
ล้วนแต่งตัวทั่วกันวันสงกรานต์ | ดูสราญเพริดพริ้งทั้งหญิงชาย | |
ที่เฒ่าแก่แม่ม่ายมิใคร่เที่ยว | สู้อดเปรี้ยวกินหวานลูกหลานหลาย | |
ที่กำดัดซัดสีสวยทั้งกาย | เที่ยวถวายน้ำหอมพร้อมศรัทธา | |
บ้างก็มีที่สวาทมาดพระสงฆ์ | ต่างจำนงนึกกำดัดขัดสิกขา | |
ได้แต่เพียงพูดกันจำนรรจา | นานนานมากลับไปแล้วใจตรอม | |
ล้วนแต่งตัวเต็มงามทรามสวาท | ใส่สีฉาดฟุ้งเฟื่องด้วยเครื่องหอม | |
สงกรานต์ทีตรุษทีไม่มีมอม | ประดับพร้อมแหวนเพชรเม็ดมุกดา | |
มีเท่าไรใส่เท่านั้นฉันผู้หญิง | ดูเพริดพริ้งเพราเอกเหมือนเมขลา | |
รามสูรเดินดินสิ้นศักดา | เที่ยวไล่คว้าลางทีก็มีเชิง | |
บ้างเล่นเบี้ยเสียถั่วจนมัวมืด | ใครขี้ตืดถากถางวางกันเหลิง | |
บ้างฉุดมือยื้อผ้าด่ากันเปิง | ที่รู้เชิงทำแปดเก้าเป็นเจ้ามือ | |
เขาตัดไพ่ตายแพ้เหลือแต่ผ้า | สิ้นปัญญาบ่นพลางครางหือ ๆ | |
นั่งเสียใจเต็มทีต้องหนีมือ | ไม่สัตย์ซื่อทำไพ่ตายเขาเอง | |
ดูเขาเล่นเป็นฤดูไม่รู้ขาด | นุชนาฏพึ่งกะเตาะขึ้นเหมาะเหม็ง | |
บ้างก็หลงเลยเล่นเป็นนักเลง | ฉันนี้เกรงกลัวนักไม่รักเลย | |
ทั้งหนุ่มสาวฉาวฉานด้วยการเล่น | บ้างซุ่มเป็นผัวเมียกันเสียเฉย | |
แต่ตัวเราเปล่าไปมิได้เชย | โอ้อกเอ๋ยคิดไปแล้วใจตรม | |
ให้เจ็บจุกทุกข์เท่าคีรีศรี | ด้วยไม่มีคู่ชิดสนิทสนม |