หน้า:วรรณกรรมต่างเรื่อง - ๒๕๐๕.pdf/71

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๙
พี่เคลิ้มคลั่งนั่งอยู่ดูมะลิ ลืมสติหลงพลอดกอดกระถาง
ฟังเป็นเสียงสายสมรวอนให้วาง จึงปลอบนางทางว่าด้วยอาลัย
พี่นั่งคอยนอนคอยน้อยไปฤๅ ขอถูกมือยอดรักอย่าผลักไส
พอรู้สึกนึกเขินเดินออกไป ถ้าแม้นใครเห็นฉันแล้วขันจริง
ราวกับถูกยาแฝดสักแปดโถ จนซูบโซเสียศรีดังผีสิง
พระอภัยหลงรูปวาดหวาดประวิง เรากลับยิ่งกว่าพระอภัยไป
ถ้ามิได้นวลหงฉันคงม้วย ใครจะช่วยดับเข็ญเห็นไม่ไหว
ฤๅจะเหมือนมดแดงน่าแคลงใจ ให้สงสัยวิญญาณ์เป็นอาจิณ
ดูตำราว่าพฤหัสบดิ์เป็นปัตตนิ ตามลัทธิว่าคู่อยู่ทักษิณ
ช่างพูดจาตาดำดังน้ำนิล ก็สมสิ้นเหมือนตำราสารพัน
เออก็ขัดด้วยอะไรไฉนหนอ แต่รีรอรักนุชสุดกระสัน
เห็นที่อื่นดื่นดาษไม่ขาดวัน จะรักกันก็ประเดี๋ยวเมื่อเกี้ยวพาน
เหมือนแสบท้องต้องฝืนกลืนข้าวตาก ระคายปากไม่ละมุนเหมือนวุ้นหวาน
เหมือนอดข้าวกินมันยามกันดาร กว่าจะพานพบของที่ต้องใจ
กระแจะจันทน์คันธาบุปผาสด ไม่เหมือนรสมิ่งมิตรพิสมัย
ประเวณีมีจบภพไตร ไม่ว่าใครทุกตัวทั่วโลกา
 ถึงเดือนสี่ปีสุดถึงตรุษใหม่ ยังไม่ได้นุชนาฏที่ปรารถนา
ฟังเสียงปืนยิงยัดอัตนา รอบมหานัคเรศนิเวศวัง
ถ้าความทุกข์เราดังเหมือนยังปืน พิภพพื้นก็จะไหวเหมือนใจหวัง
นวลหงคงจะรู้ถึงหูดัง จะนอนฟังทุกข์พี่ไม่มีเว้น
ทุกวันคืนเดือนปีไม่มีหยุด พี่แสนสุดทุกข์ใจใครจะเห็น
ในทรวงช้ำเหมือนเขาเชือดเอาเลือดกระเด็น ใครจะเป็นเช่นข้าทั้งธานี
ความรักนุชสุดหลงพะวงจิต จนลืมคิดญาติกาน่าบัดสี