หน้า:สนทนากับผู้ร้ายปล้น - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๖๘.pdf/43

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๒

๙๔ ถามว่า ถ้าไม่มีผู้เปนใจคอยรับซื้อโคกระบือโจรผู้ร้าย โคกระบือที่ปล้นสดมภ์ไปจะขายอย่างใดได้บ้างหรือไม่

ตอบว่า ถ้าไม่มีนักเลงคอยรับซื้อโคกระบือโจรผู้ร้ายแล้ว โจรผู้ร้ายก็ไม่อาจจะปล้นสดมภ์ลักโคกระบือไปได้ เพราะโคกระบือเปนสัตว์ใหญ่ ปล้นสดมภ์ลักไปแล้วจะซ่อนเร้นไว้ก็ไม่ได้ ถ้าจะพาไปเที่ยวเร่ขาย ก็คงจะเกิดสงสัยจับกุมกันขึ้น ถึงมีนักเลงคอยรับซื้ออยู่อย่างทุกวันนี้ พวกผู้ร้ายที่ปล้นลักโคกระบือไป กว่าจะถึงที่ขายได้ก็แสนลำบาก ต้องบุกป่าผ่าพงไปทางวันหนึ่งสองวันจึงจะถึงที่ขาย

๙๕ ถามว่า ที่ต้องระวังอย่าให้ถูกจับกลางทางนั้น คือ ระวังอย่างไร

ตอบว่า การต้อนโคกระบือที่ปล้นเขาไป จะเดิรในท้องทุ่งนาที่เตียนไม่ได้ กลัวเขาจะเห็น ถ้ามีที่ป่าพงพอจะเดิรได้ ต้องเดิรบุกไปในป่าพงที่รก ถ้าจะเดิรที่ทุ่ง ต้องเดิรแต่เวลากลางคืน และต้องระวังหลีกเลี่ยงโรงพักพลตระเวนและตำรวจภูธร และหลีกท้องที่ผู้ใหญ่บ้านที่เปนคนแขงแรงในราชการด้วย

๙๖ ถามว่า ทำไมจึงต้องเดิรหลีกเลี่ยงท้องที่ผู้ใหญ่บ้านที่แขงแรงในราชการ

ตอบว่า ถ้าไปเจอผู้ใหญ่บ้านที่แขงแรง เขาตีเกราะเรียกลูกบ้านออกช่วยกันไล่เอาพักเดียว ผู้ร้ายก็ต้องทิ้งโคกระบือ ดังเช่นผู้ร้ายปล้นกระบือไปจากเมืองปทุมธานีเมื่อเดือนกรกฏาคมนี้ จะพากระบือไปขาย