หน้า:หนังสือ นร ๐๕๐๓-๓๓๔๔๙ (๒๕๖๓-๑๐-๒๒).pdf/1

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ตราครุฑ
ตราครุฑ
ที่ นร ๐๕๐๓/๓๓๔๔๙
สำนักนายกรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล กทม. ๑๐๓๐๐

๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๓

เรื่อง ขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา ๑๖๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
กราบเรียน ประธานรัฐสภา

ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ว่า บัดนี้ มีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๑๖๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีข้อเท็จจริงของปัญหา ดังนี้

๑. ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโควิด ๒๐๑๙ ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ก่อนแล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อดังกล่าว โดยมีสถิติผู้ป่วยติดเชื้อตลอดจนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทยก็ยังคงมีผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศทุกวัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการที่ห้ามหรือควบคุมการเดินทางเข้าประเทศของนักเดินทางจากต่างประเทศที่ประสงค์จะเข้ามาลงทุนทางธุรกิจ ท่องเที่ยว หรือใช้บริการสาธารณสุขในประเทศไทย เพื่อช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ขณะเดียวกัน ได้มีผู้นัดชุมนุมกันในทางการเมืองตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดในลักษณะแออัดประชิดตัวอยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับมีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากจนเกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัด สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ฝ่ายสาธารณสุขเกรงว่า อาจเกิดโรคระบาดได้ง่าย เพราะประชาชนจะขาดความระมัดระวังในการป้องกันโรคที่เหมาะสมเพียงพอ จึงอาจกระทบต่อการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคและความเชื่อมั่นของผู้จะเดินทางเข้ามาในประเทศได้

๒. การชุมนุมยังคงมีต่อเนื่องตลอดมา โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จนเกิดเหตุอันไม่คาดคิดขึ้น เมื่อปรากฏว่า ในวันดังกล่าว มีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปในการตั้งเปรียญ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และการพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอารามต่าง ๆ ๔ แห่ง คือ วัดราชโอรสาราม วัดอรุณราชวราราม วัดมกุฏกษัตริยาราม และวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ในขณะที่ขบวนเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ เคลื่อนไปตามถนนพิษณุโลกอันเป็นเส้นทางตรงขึ้นทางด่วนมุ่งไปยังวัดราชโอรสารามฝั่งธนบุรี กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ขวางทางและหยุดขบวนเสด็จพระราชดำเนินกลุ้มรุมล้อมรถพระที่นั่ง และมีผู้ตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรงแสดงอาการไม่สมควร และเป็นการคุกคามเสรีภาพของผู้อยู่ในขบวนเสด็จพระราชดำเนินและผู้ถวายการอารักขา ผู้ชุมนุมได้พักค้างคืน ณ บริเวณทำเนียบรัฐบาลซึ่งใกล้กับบริเวณอันเป็นเขตพระราชฐานที่ประทับและเส้นทางที่จะมีการเสด็จพระราชดำเนินในวันต่อ ๆ ไป ทั้งการชุมนุมส่อว่าจะยืดเยื้อ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ และอาจมีผู้ฉวยโอกาสแทรกเข้าก่อความวุ่นวายได้ แม้บางส่วนจะร่วมชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อยก็ตาม ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและระงับยับยั้งความรุนแรงอันอาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล นายกรัฐมนตรีจึงอาศัยอำนาจ

/ตาม...