ยินหรือรู้ ผมตกใจ เบาเครื่องนิดหน่อย แต่พอนึกว่า ผมฆ่าเขาตายเสียแล้ว ทำให้ผมหมดความคิดจะเป็นพลเมืองดีเลย คุณครับ ผมเลยเร่งเครื่องเผ่นหนีเลย หัวใจเร่าร้อน กลัวอาญาเป็นกำลัง"
"ผมขับกลับที่พัก ที่พักอยู่กับเพื่อน ผมหยุดรถลงตรวจรถอย่างใจเต้นแรงและถี่เหมือนหายใจไม่ออก แต่โชคช่วยผม รถผมไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่มีบุบที่ตรงไหนเลย น่าประหลาด ชนดังราวกับฟ้าผ่า ผมค่อยโล่งใจที่ไม่มีพยานเป็นรอยบอบช้ำอยู่ที่ของกลาง ผมจึงออกรถตรงไปที่เจ้าของรถที่ผมเช่า แจ้งกับเขาว่า ผมเกิดจะเป็นไข้ขึ้นกะทันหัน ขอส่งรถก่อน แล้วผมก็ขึ้นรถอื่นกลับบ้านพัก ใจมันไม่ยอมหลับ ใจคงหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา มาหลับเอาตอนเช้า ใคร ๆ ในบ้านพักรู้ว่าผมไม่สบาย จึงไม่มีปัญหาอะไรว่าทำไมผมไม่ออกรถ
"ข่าวรถชนคนตายแล้วขับหนีไม่มีเลยครับ ผมทำนอนเจ็บและทำแข็งใจไปหาหมอเพื่อฟังข่าวดู ทั้งหนังสือพิมพ์ก็ไม่มีข่าวพาดหัวเลย ผมทำป่วยอยู่สามวัง ข่าวก็เงียบหาย แต่ผมกลับได้ข่าวไปอีกคนละเรื่อง มีพวกคนขับรถรับจ้างนี่แหละพูดกันว่า รถคันที่ขับนั้นไม่ดี เคยชนกันมาแล้ว ครั้งก่อนเจ้าของนถเป็นผู้หญิง ขับเอง ชนกับรถบรรทุกเหล็กเส้นคอนกรีต เหล็กทำกระจกแตกแล้วทิ่มคอคนขับหญิงตาย รถคันนี้ถูกซ่อมและขายมากับเจ้าของรถเช่า ถ้าใครเอารถคันนี้ขับ เป็นเกิดชนคนเสมอ พอผมรู้อย่างนั้น เลยบอกเลิกกับรถคันนี้เลย ใจคอไม่สมัครรับจ้างขับรถแท็กซี่อีกแล้ว คิดหาทางขับรถบ้านที่เขามีรถใหม่ ๆ ที่ไม่มีผีสิง"
เรื่องรถผมชนคนตายเงียบจริง ๆ ถ้าจะไม่ตายแน่นอนเสียแล้ว ยายผู้หญิงคนนั้นคงเพียงสลบ เมื่อแกฟื้นขึ้นเอง แกก็กลับบ้านแก แต่ที่ไม่แจ้งความกับตำรวจ คงจะไม่รู้ว่าเป็นรถใคร และเลขทะเบียนรถก็ไม่รู้ หรือไม่อีกทีก็เกิดจากว่า แกอยากตายเอง ผมเห็นชัด ๆ ว่า แกตั้งใจวิ่งมาให้รถชน แกวิ่งมาหารถ ทั้ง ๆ มองดูรถอยู่แล้ว แสดงว่า ต้องการยืมมือผมเป็น