หน้า:แถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี (๒๕๔๓-๑๑-๐๙).pdf/1

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๑๐๒ ก

๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๓
หน้า ๓
ราชกิจจานุเบกษา

แถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง การยุบสภาผู้แทนราษฎร และการกำหนดวันเลือกตั้ง

ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมทุกคนสิ้นสุดลง และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายใน ๖๐ วัน ซึ่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้กำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔ นั้น รัฐบาลขอชี้แจงเกี่ยวกับการยุบสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้

๑. การยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นกระบวนการปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และถือว่า การยุบสภาเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชน เพราะจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่ ปัญหาทั้งปวงจะกลับไปยุติที่ประชาชนด้วยการเลือกตั้งบุคคลจากพรรคการเมืองที่มีนโยบาย วิธีปฏิบัติ และคุณธรรม ตรงตามที่ประชาชนพอใจมากที่สุด ให้มาเป็นฝ่ายข้างมากในการออกกฎหมายและควบคุมรัฐบาล และเป็นฝ่ายจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารประเทศ

๒. การยุบสภาครั้งนี้ เกิดจากการที่รัฐบาลพิจารณาเห็นว่า เมื่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้เข้าบริหารราชการแผ่นดินในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ประเทศชาติกำลังประสบปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อย่างรุนแรง ประกอบกับมีภารกิจสำคัญยิ่ง คือ ต้องเร่งรัดจัดให้มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ ที่ต้องตราขึ้นตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ทันภายในกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด บัดนี้ การดำเนินการเพื่อตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ๆ ดังกล่าว ประมาณ ๓๐ ฉบับ ได้สำเร็จลงแล้ว อีกทั้งการแก้ไขเยียวยาปัญหาภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ก็ได้ลุล่วงไปแล้วในระดับหนึ่ง จนเชื่อได้ว่า จะเป็นพื้นฐานรองรับการดำเนินการต่อไปในระยะยาวได้อย่างมั่นคง ทางด้านนิติบัญัติเอง ก็ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเสร็จสิ้น จนสามารถเรียกประชุมได้แล้ว รวมทั้งสามารถจัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปีละสองสมัย ครบทั้งแปดสมัย ประชุมตลอดระยะเวลาสี่ปีของอายุสภาผู้แทนราษฎร ประการสำคัญ คือ รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๔ แล้ว อันจะเป็นเครื่องมือในการบริหารราชการแผ่นดินสำหรับปีงบประมาณใหม่และรัฐบาลใหม่ต่อไปได้โดยไม่สะดุดหยุยลง และได้ให้ความเห็นชอบกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จนสามารถตราขึ้นใช้บังคับ และศาลรัฐธรรมนุญมีคำวินิจฉัยแล้วว่า ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ อันจะเป็นเครื่องมือสำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย