ในเมืองอุดงมีไชยที่รับราชการใช้สอยได้นั้น ก็มีแต่สมเด็จเจ้าฟ้าทะละหะ ชื่อ เมียต หนึ่ง พระยายมราช ชื่อ มัก หนึ่ง พระยาวัง ชื่อ พรม หนึ่ง พระยากลาโหม ชื่อ แก้ว หนึ่ง พระยายมราช พระยากลาโหม แก่งแย่งวิวาทกับสมเด็จเจ้าฟ้าทะละหะ องค์พระหริรักษ์ให้ถอดพระยายมราชกับพระยากลาโหมเสียจากที่ และเมื่อ ณ วันศุกร เดือนสิบ แรมสิบสี่ค่ำ ปีวอก โทศก สมเด็จเจ้าฟ้าทะละหะมีหนังสือให้หลวงชำนิจเสนาถือมายังพระยาอภัยภูเบศ ณ เมืองพระตะบอง ใจความว่า องค์พระหริรักษารามมหาอิศราธิบดีป่วยเป็นโรคริดสีดวงงอกแตกที่ทวาร ได้หาหมอมารักษา อาการก็ยังทรุดหนักไป สืบได้ความว่า พระยารัตนวิเศษประเทศธานี เจ้าเมืองสวายจิก รู้ยาริดสีดวง เคยรักษาคนหายมาหลายคนแล้ว จึงขอตัวพระยารัตนวิเศษไปช่วยประกอบยาให้ ข้าพระพุทธเจ้า และพระยาณรงค์ ปลัด พระคทาธรธรณินทร์ ผู้ช่วย ปรึกษาพร้อมกันเห็นว่า พระยารัตนวิเศษเป็นคนว่างอยู่ จึงจัดให้ออกไป แล้วให้สืบฟังข่าวราชการเมืองเขมรด้วย และพระคทาธรธรณินทร์ได้ไต่ถามหลวงชำนิจเสนา ผู้ถือหนังสือ ด้วยอาการองค์พระหริรักษ หลวงชำนิจเสนาแจ้งความกับพระยาคทาธรธรณินทร์ว่า อาการองค์พระหริรักษนั้นว่า เป็นโรคริดสีดวงงอกแตกที่ทวาร ที่ปากก็เปื่อย รับพระราชทานอาหารก็ไม่สู้ได้ เนื้อตัวก็ให้เมื่อย จะลุกจะนั่งก็ไม่ได้ อาการก็เห็นจะยืดยาวต่อไป จดหมายมา ณ วันที่ ๓ ๑๐ ฯ ๑๑ ปีวอกนักษัตร โทศ๑ก๐[1]
เลขที่ | ๒๓ | |
ร. ๔ | จ.ศ. ๑๒๒๒ |
- ↑ ตรงกับวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๐๓