หูสีเทียนก้าม ปิกันได้ฟังคิดสงสัยว่า จะให้หาเกียงจูแหยเข้าไปด้วยราชการสิ่งใด เกียงจูแหยจึงว่า วันนี้ กรรมมาถึงข้าพเจ้าแล้ว จะขอลาท่านไป บุญคุณท่านมีอยู่กับข้าพเจ้ามากนักหนา เมื่อใดจะได้กลับมาแทนคุณท่าน ตั้งแต่นี้ นานจะได้พบกัน ปิกันจึงว่า ท่านรู้ความอย่างนั้น จงอย่าเพ่อเข้าไปเฝ้า จงยับยั้งฟังดีร้ายอยู่สักเวลาก่อนจะเป็นไร เกียงจูแหยจึงว่า ถึงจะยับยั้งอยู่ก็เห็นไม่พ้นภัย เมื่อกรรมชาติก่อนได้ทำมา ก็จะก้มหน้าไปตามกรรม เกียงจูแหยจึงเขียนหนังสือฉบับหนึ่ง เอาหินฝนหมึกทับไว้บนโต๊ะที่ไว้พระ แล้วว่ากับปิกันว่า ถ้าท่านมีกิจสุขทุกข์ไปเมื่อหน้า จงเปิดดูทำตามหนังสือเถิด ว่าแล้วก็คำนับลาไป ปิกันก็ยุดมืดไว้แล้วว่า ข้าพเจ้าจะไปด้วย ถ้าขัดข้องสิ่งใดจะได้แก้ไขกัน เกียงจูแหยจึงว่า ท่านอย่าเป็นกังวลกับข้าพเจ้าเลย จงอยู่รักษาบุตรภรรยาเถิด ว่าแล้วเกียงจูแหยก็เข้าไปเฝ้ากับผู้รับสั่ง ณ พระที่นั่งเตียะแซเหลา พระเจ้าติวอ๋องก็ให้ดูแผนที่อย่างที่นั่งลกไต๋ จึงตรัสว่า เราจะให้ท่านเป็นนายช่างทำลกไต๋นี้ สักกี่เดือนจึงจะแล้ว เกียงจูแหยจึงคิดว่า บ้านเมืองนี้นานไปเบื้องหน้าก็จะเป็นจลาจล ที่ไหนกูจะได้อยู่ในเมืองนี้ จะรับทำหาต้องการไม่ คิดแล้วจึงแกล้งทูลว่า อันอย่างพระที่นั่งลกไต๋นี้ยากนัก ทำสามสิบห้าปีจึงจะแล้ว
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/228
หน้าตา