พระเจ้าติวอ๋องก็เสด็จขึ้น ขุนนางทั้งปวงก็ออกจากที่เฝ้า บุนไท้สือครั้นกลับมา ณ บ้านจึงคิดว่า จะเร่งชำระความในพระราชวังเสียให้สำเร็จ เกลือกเชียงเสียงอ๋อง เมืองปักไฮ จะยกมา จะได้ทำการแต่หน้าเดียว
ขณะนั้น มีผู้มาบอกบูเสงอ๋องว่า กองทัพเมืองปักไฮยกมา บูเสงอ๋องก็ถอนใจใหญ่แล้วนึกว่า ถ้าศึกมีมาแต่ทางเดียวก็จะยังชั่ว ถ้ามีมาทั้งสี่ทางจะทำกระไร คิดแล้วจึงสั่งให้พาผู้ถือหนังสือไปแจ้งความแก่บุนไท้สือ ผู้สำเร็จราชการ ฝ่ายผู้ถือหนังสือก็มา ณ บ้านบุนไท้สือ ให้ทนายเข้าไปกราบเรียน บุนไท้สือดูหนังสือแจ้งความแล้วก็เข้ามาในที่ว่าราชการ พาบูเสงอ๋องเข้าไปเฝ้าถวายหนังสือแจ้งเรื่องความ พระเจ้าติวอ๋องทอดพระเนตรหนังสือแล้วก็ถอนใจใหญ่ จึงตรัสว่า ท่านจะคิดประการใด บุนไท้สือจึงทูลว่า ศึกเมืองปักไฮครั้งนี้เห็นหนักแน่น จะให้บูเสงอ๋องไปก็ยังไม่เคยการศึก ข้าพเจ้าจะขอทหารยี่สิบหมื่นยกไป จะให้บูเสงอ๋องอยู่ ซึ่งเนื้อความสามประการที่พระองค์ขอไว้นั้น เมื่อสำเร็จการศึกแล้วกลับมา จึงคิดอ่านชำระต่อไป พระเจ้าติวอ๋องดีพระทัย ด้วยจะหามีผู้ใดว่ากล่าวให้ขัดเคืองใจไม่ จึงมอบธงอาญาสิทธิ์ให้ แล้ว