ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/46

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ไว้ที่ไหน ทั้งนายแม่ก็คงไม่รับเลี้ยงดูให้ศุขสบายมีหน้ามีตาอีกต่อไปได้ นอกจากเฉดหัวเธอกลับมาอยู่กับพ่อ แล้วเธอก็จะต้องมีชีวิตร์อยู่กับปรักควายไปอีกตลอดชาติ

เมื่อคิดมาถึงเหตุที่จะเข้าร้ายตอนนี้ทำให้เรียมหัวใจผลุนผลันขอกลับด้วย โดยอ้างว่าเธอมิได้เตรียมตัวจะมาค้าง ฉนั้นจึงมิได้มีผ้าผ่อนที่พอจะผลัดเปลี่ยนติดมา เมื่ออาการของแม่หนักอย่างไรก็ขอให้พี่เริญรีบไปตามในวันรุ่งขึ้น หรือไม่อย่างช้าอีก ๓–๔ วันเธอจะมาไหม่ พวกที่มาด้วยต่างเห็นจริงและยินดีไปตามกัน ส่วนพวกทางบ้านถึงแม้จะไม่เห็นดีและเต็มใจก็ไม่มีใครกล้าที่จะทัดทานได้

เจ้าขวัญ เมื่อดำน้ำเต็มอึดพอลับคุ้งมาก็โผล่ และขึ้นฝั่งด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มอิ่มใจแทบว่าจะไม่ไปกินเข้าเย็นที่บ้านนึกอยากจะนั่งคอยอยู่ที่นี่จนกว่าจะค่ำและเดือนจะขึ้น แต่เกรงพ่อแกจะเปนห่วงออกตามหา ความก็จะแดงขึ้นแล้วคลาดนัดกับเจ้าเรียมเสียอีก มันนึกเข็ดที่จะต้องค้างคอยเจ้าเรียมอีกเปนเวลาแรมปี เปนวันแรกในเวลา๓ปีที่เจ้าขวัญเพิ่งจะได้ร้องเพลงและผิวปากอย่างครึ้มใจ พอลัดเข้าทางท้ายคอกอ้ายเรียวก็ชะเง้อมองจำได้ มันสบัดเขาเบิ่งย่ำขาไป ๆ มา ๆ คล้ายจะว่าเจ้าขวัญ ทำไมอารมณ์ดีนัก

ขวัญอิ่มใจจนกินเข้าได้น้อย พูดคุยกับผู้ใหญ่เขียนถึงแต่เรื่องงานไร่งานนายิ้มแย้มจนท่านผู้ใหญ่พิศวง

แม้จะรู้ว่า การไปพบเจ้าเรียมในคืนนี้ต้องว่ายน้ำและ แช่อยู่ในน้ำเปนเวลานานก็จริง เจ้าขวัญก็ยังอดที่จะเปลี่ยน ด้วยกางเกงไหม่ไม่ได้ มันปดพ่อว่าจะไปก่อไฟสุมยุงให้อ้ายเรียว ลางที่จะเลยนอนเฝ้าคอกควาย เจ้าขวัญก่อไฟจริง แล้วก็นั่งดูกองไฟอย่างเผลอ ๆ พอสักครู่ก็แหงนตาจับฟ้าเร่งดาวเร่งเดือนให้ขึ้นเสียโดยเร็ว มันจะได้เลี่ยงไปลงน้ำแล้วว่ายให้เร็วและเงียบเชียบ พอพ้นคุ้งก็ดำไปโผล่ที่กะใดเจ้าเรียม มันนั่งดูกองไฟจ้องนิ่ง ๆ นาน ๆ จนแทบจะเห็นหน้าเจ้า

๔๒