ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/50

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ถ้ามึงไม่มาบางกะปิครานี้แล้วกูก็คงคิดคงครวญถึงมึงจนวันตายของกูยังดีกว่า โอ๋เรียมต้นไม้เปลี่ยนใบ หญ้าเปลี่ยนสี กุ้งปลาก็ลอกคลาบไปแล้ว พี่ยังไม่วายรักเจ้าเลย พี่จะคอยเจ้าต่อไปอีก เมื่อเจ้าเบื่อบางกอกเจ้าก็คงคิดถึงพี่มั่ง กลับมาหาทพี่มั่ง บางกะปิและศาลเจ้าพ่อเปนที่นัดที่คอย เปนที่อยู่ที่ตายของข้า ถึงข้าเปนผีไปแล้วเมื่อข้าไม่มีศาลอยู่ ข้าก็จะเอาลำน้ำนี้เปนวังอาศัยคอยกว่าเจ้าจะกลับมาแล้วข้าก็จะเอาเจ้าไปอยู่กับข้ายังเมืองผี อีเรียมเอ๋ย ถึงเราจะเปนผีอาศัยลำน้ำนี้ ดำผุดดำว่ายกันตามประสาหาศุขไปชั่ว ๆ วันจนกว่าจะได้ผุดได้เกิดก็ยังจะดีกว่าเจ้าแยกไปอยู่บางกอกข้าอยู่แสนแสบคนละทุ่งละทางยังงี้เสียอีก

เจ้าขวัญซบหน้าลงกับแขนที่เกาะบรรใด ทั้งรักทั้งแค้นในการกระทำของเจ้าเรียมนักถอนใจยาวแล้วก็ฮึดฮัดผลุนผลันผละจากท่าน้ำตาเรือง ปากคาบมีดว่ายกลับมาตามสายน้ำเก่า สายน้ำเก่าซึ่งมันรักมันรอเจ้าเรียมมา ๓ ปีแล้ว ความมืดในลำน้ำข้างหน้าซึ่งมันจะผ่านไป เงาไม้ทั้งสองฝั่ง บางฟากมีกอเข้าริมน้ำไหวเยือกไปตามละลอกคลื่นที่เจ้าขวัญว่ายแหวก เสียงปลาเล็กผุดจ๋อมขึ้นข้าง ๆ ตัวและโผงผางของปลาใหญ่ที่ตกใจเผ่นพ้นน้ำเหล่านี้คงเปนของธรรมดาที่ไม่ทำให้เจ้าขวัญเสียขวัญไปได้เลย มันว่ายหลีกลัดไปตามคุ้งน้ำพอขึ้นฝั่งก็ได้เวลาเดือนตกลับไป

- ๕ -
เจ้าพ่อบรรดาล

กลับจากบางกะปิมาถึงบ้าน เรียมไม่ศุขใจเสียเลยเข้านอนแต่หัวค่ำแม้จะฝืนใจหลับตาสักเท่าใดก็ไม่สำเร็จ พอหลับตาลงเปนเห็นหน้าเจ้าขวัญทุกที่ หน้าตามันซื่อเหมือนใจ นึกรังเกียจในความบ้านนอกของมันเวลานั้น แต่เวลานี้ โธ่ ขวัญช่างน่าสงสารเสียจริงเธอเชื่อฉันเพราะเธอรักฉัน บาปจริง บาปอย่างน่าละอายตัวเองทีเดียวที่ฉันหลอกคนซื่อ ๆ อย่างขวัญ

๔๖