ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/52

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

บางกะปิตั้งแต่เกิดมาจนรุ่นสาว และฉันก็เสียสาวเพราะขวัญของฉัน ฉันมาตื่นเอาในกรุงเทพฯ เพียง ๓ ปีเท่านั้นฉันก็ลืมที่นอนซึ่งหลับอย่างแสนสบายมาแต่เล็ก ฉันกำลังหลับอยู่กลางพระนครเมื่อ ๓ ปีมานี้ และก็บางกะปินี่เองที่ปลุกให้ฉันตื่นรู้จักบ้านเกิดเมืองนอนของฉันอีกครั้งหนึ่งเมื่อกลับจากบางกะปิ เมื่อกลับจากเธออย่างหญิงเจ้าเล่ห์ นายขวัญ พี่ขวัญ บางกะปิของเราปลุกฉันตื่นแล้ว บางกะปิของเราทุกหย่อมหญ้าวังน้ำนั่นสุขกว่ากรุงเทพฯ เปนไหน ๆ

เรียมหลบหน้าลงเพราะแสงจันทร์เตือนใจเธออยู่เสมอว่าเจ้าขวัญกำลังคอยอยู่กลางสายน้ำ เจ้าขวัญผู้อาภัพที่เกิดมาเปนชาวนา เพราะเจ้าขวัญขาดอารยธรรม ส่วนเรียมกำลังอาบความเจริญรุ่งเรืองของพระนครเธอจึงรังเกียจและหลีกลี้มาเสียแต่เมื่อบ่าย แต่วิญญาณเจ้าขวัญและความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติท้องทุ่งท้องน้ำ ธรรมชาติซึ่งลิขิตไว้ประจำทุ่งบางกะปิตลอดลำน้ำ และทุ่งแสนแสบ ทั้งสองฟากมีมหาอำนาจเหนือวิญญาณเจ้าเรียมแต่เกิดมาจนสาวใหญ่เปนเวลานาน ๒๐ ปี เมื่อกลับไปบางกะปิอีกเพียงวันเดียว ธรรมชาติเหล่านั้นก็ทำให้เธอระลึกได้ว่า บางกะปิคือบ้านเกิดเมืองนอน ระฤกถึงเหตุการณ์และการกระทำหนหลังซึ่งเธอได้ร่วมคิดร่วมใจกับเจ้าขวัญไว้แต่กาลโน้น

ยิ่งคิดยิ่งละอายตนเองที่เธอหลอกลวงเจ้าขวัญใจซื่อ ความสงสารกับความหลังเข้าจับใจเธอ พระจันทร์ยิ่งแจ่มเธอก็ยิ่งร้องไห้ ทำอย่างไรเสียเจ้าขวัญก็ต้องคอยเธอจนกว่าเดือนจะตก แล้วมันจะคิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรเมื่อไม่เห็นเธอ มันต้องร้องไห้อยู่กับกระไดน้ำเปนแน่เทียว มันเปนหนุ่มใจเพ็ชร์ เมื่อเสียใจถึงที่สุดมีดที่มือมันเกลือกจะฆ่ามันเสียเองก็ได้ ฉันจะบาปมากทีเดียวถ้าเธอเปนไปเช่นนั้น ขวัญของฉัน ฉันจะไม่นอนหลับในถิ่นที่ไม่ใช่บ้านเกิดฉันอีกต่อไป บางกะปิเปนบ้านของเรา ฉันเกิดบางกะปิ หญ้านาและรวงเข้าบางกะปิให้ความเติบโตแก่ฉันมากและนาน ตั้งแต่วันคลอด

๔๘