หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/92

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ร่างมันไถลลงน้ำลึก ลึกจนกระทั่งมิดหัว พรายน้ำขึ้นพรั่ง ๆ สำแดงว่า มันกำลังตะเบ็งร้องเรียกชื่อเจ้าเรียมอย่างเต็มที่เปนครั้งสุดท้าย เห็นอยู่แต่มือกำมีดแกว่งช้าลง จมลงจนมิดเห็นเพียงใบมีด แล้วใบมีดก็ลับตา พรายน้ำขึ้นอีกพลุ่งใหญ่แล้วนิ่งเงียบเชียบ อ้ายเจ้าทุ่งลาโลกไปแล้ว ลาบางกะปิบ้านเกิดเมืองนอน ละเมียรักไปด้วยความแค้นเข้าใจผิดตะวันตกดินคล้ายจะไว้อาลัยและเคารพในวิญญาณอ้ายเจ้าทุ่งที่หลับสงบอยู่ใต้น้ำ เรียมร้องกรี๊ดใหญ่เต็มเสียง ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วในโลกนี้ ทุ่งนี้ น้ำนี้ นับวันแต่จะเงียบเหงาเยือกเย็น พี่ขวัญ ผัวรักเจ้า ตายไปแล้วต่อหน้าต่อตา เรียมสลัดแขนโดยแรง ขณะที่สมชายกับเจ้าเริญผู้ยึดแขนกำลังตะลึงและสลดใจในกิริยาตายของเจ้าขวัญ ออกได้ก็โผนลงน้ำว่ายอย่างปราดเปรียว แล้วดำหายลงวังน้ำซึ่งผัวรักเจ้าซึ่งสงบไปเมื่อสักครู่ ทันใดนั้น พรายก็พ่นพลุ่งขึ้นเปนสีโลหิตแดงฉานทั่วผิวน้ำ

สมชาย เจ้าเริญ กับเพื่อนสมชายอีกสองคน ต่างตกตะลึงตาโพลง สมชายมีสติก่อน จึงกระโจนลงคลอง แล้วคนอื่น ๆ ก็กระโจนตาม ภายหลังปรากฏว่า เรียมดำน้ำลงไปโดยแรงและรวดเร็ว ปลายมีดซึ่งเจ้าขวัญยังกำอยู่แน่นเมื่อตายสวนคอแทบมิดใบมีด แล้วเธอก็กอดคออ้ายขวัญ หนุ่มลูกบ้านทุ่ง ขาดใจตายอยู่ใต้พื้นแทบตลิ่งรักของเจ้าทั้งสองเมื่อสามปีโน้น

วิญญาณรักทั้งสองดวงของแม่เรียมและนายขวัญคงขึ้นล่องและดำผุดดำว่ายอยู่ทุกฤดูน้ำหลากกันอย่างแสนสำราญ สถิตเสถียรเปนเจ้าแม่แห่งความรัก เจ้าพ่อแห่งลำน้ำทุ่งท่าของบางกะปิ อยู่ตลอดกาลนาน

จบ

คอยระวัง! ดูประกาศ เรื่องผีของเหม
ในเร็ว ๆ นี้
๘๕