ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Rachathirat 2496.djvu/49

จาก วิกิซอร์ซ
(เปลี่ยนทางจาก หน้า:Rachathirat 2432 (01).djvu/48)
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๔๖

ครั้นอยู่มานางจันทะมังคะละ กับนางสะเจียงทูลขอโทษมุนะ พระยาอายลาวโปรดมุนะพ้นโทษ ครั้นอยู่มาอายลองพระราชโอรสพระเจ้าอายลาวเป็นอหิวาตกโรคดับสูญสิ้นพระชนม์ พระยาอายลาวผู้เป็นพระราชบิดา ได้เสวยราชสมบัติเมืองเมาะตะมะได้สิบแปดปี ลุศักราช ๗๐๗ ปี ก็สวรรคต ตั้งแต่พระเจ้าฟ้ารั่วครองราชสมบัติในเมืองเมาะตะมะ ได้ช้างเผือกผู้เป็นปถมราชพาหนะ มาตราบเท่าพระยาอายลาว ลำดับกษัตริย์ต่อมา พระนามปรากฎเรียกว่า พระเจ้าช้างเผือกทุกพระองค์ ล่วงไปได้เจ็ดพระองค์ด้วยกัน และพระองค์ซึ่งเป็นเคารบแปด คือมุนะได้ราชาภิเศกในราชสมบัติ ทรงพระนามชื่อว่าพระเจ้าอู่

อยู่มาในกาลวันหนึ่ง พระเจ้าอู่เสด็จไปคล้องช้างเมืองพะโค เมื่อเสด็จกลับมานั้นพบสตรีผู้หนึ่งอยู่ในสวนกล้วย เป็นบุตรีชาวสวนกล้วย มีลักษณะงามหาที่สุดมิได้ ชื่อว่าเม้ยโกสก แปลเป็นคำไทยว่านางผมงาม พระเจ้าอู่มีพระทัยเสน่หารักใคร่ในนางนั้นนัก จึงให้ตกแต่งมรรคาสรรพไปด้วยราชวัตรฉัตรธง ต้นกล้วยต้นอ้อยมีร้านน้ำสองข้างมรรคา รับสตรีนั้นเข้ามาเมืองเมาะตะมะ เลี้ยงเป็นพระสนมเอก ให้ชื่อว่านางอำเปอ

ขณะนั้นชาวเมืองทั้งปวงซึ่งได้เห็นรูปนางนั้น ก็ตบมือรำทำเพลงว่า ตักกะตอยลัดอูรูปะนะโกลนโกญปะราตะลาญ แปลเป็นภาษาไทยว่า นางรูปงามทรามสวาทผาดหน้าดี มีศรีแก่นางทั้งหลาย ลูกชาวบ้านกล้วยป่า และนางอำเปอนั้น พระยาอู่พระเจ้าช้างเผือกเป็นที่เสน่หารักใคร่ยิ่งนัก ครั้นอยู่มานางจันทะมังคะละซึ่งเป็นพระอัครมเหสีตาย จึงตั้งนางอำเปอขึ้นเป็นอัครมเหสี ให้ชื่อว่านางจันทะมังคะละ