พลเรือนฝ่ายน่าฝ่ายในในพระบรมมหาราชวัง พระราชวังบวร ให้กระทำตามพระราชบัญญัติ์ประกาศนี้จงทุกประการ ประกาศมาณวันอาทิตย เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีรกาเบญจศก ๚ะ
๏พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์พร้อมด้วยที่ปฤกษาราชการแผ่นดินว่า ในแผ่นดินพระบาทสมเดจพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ข้าหลวงออกเดินสวนตั้งแต่ปีฉลูสัปตศก ครั้นถึงปีมแ ตรีศก พระบาทสมเดจพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสดจเถลิงถวัลย์ราชสมบัติแล้วเปนปีที่สี่ ในปีนั้นน้ำมาก ท่วมสวนฃองราษฎร ต้นผลไม้ของราษฎรเสียไปเปนอันมาก จึ่งโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานจัดข้าหลวงรังวัดไม้ตายสักหลังโฉนดไว้ครั้งหนึ่ง บัดนี้คิดตั้งแต่ปีฉลูสัปตศกมาจนถึงปีจอฉศกครบ ๑๐ ปี เปนประเพณีจะต้องจัดข้าหลวงออกเดินรังวัดสวนสำรวจไม้ตายไม้ขึ้นเปลี่ยนน่าโฉนดตราแดงใหม่ จึ่งโปรดเกล้าฯ ให้จัดข้าหลวงออกรังวัดสวนในปีจอฉศกนี้ แต่ธรรมเนียมเดิมมีท้องตราบังคับว่า ให้แต่งข้าหลวงรังวัดสวนแล้ว ราษฎรบังอาจตัดต้นผลไม้มีอากรซึ่งนายรวางประกาศป่าวร้องห้ามแล้วให้ขาดเงินอากรของหลวงไป ให้ปรับใหมอากรต้นหนึ่งเปนสามต้นสักหลังไว้ในโฉนดเปนไม้โทษ แล้วอย่าให้หักสิบลดให้แก่ราษฎรผู้กระทำผิดนั้นเลย ข้อบังคับเดิมมีอยู่ดังนี้ ทรงพระราชดำริห์เหนว่า ไม้ซึ่งราษฎรจะตัดฟันเสียนั้นก็แต่ที่ไม่มีผล กลัวจะต้องเสียเงินอากร จึ่งได้ลอบลักตัดฟัน จนต้องตั้งมาเปนธรรมเนียมดังนี้ ฝ่ายข้าหลวงไปเดินสวนเล่า ก็คิดแคะไค้จะหาความว่าราษฎรตัดฟันไม้ในระหว่างห้ามปราม ที่ราษฎรลักตัดจริงก็มี ที่ตัดแล้วหลายเดือนหลายปีก็มี เจ้าพนักงานก็ขลุมเอาว่าตัดในเวลาประกาศห้ามปราบทั้งสิ้น ขู่เขญให้ราษฎรกลัวต้องเสียเงินทองให้เปนผลประโยชน์แก่ตัว ก็เปนอันเลิกแล้วสูญกันไป ถ้าที่ราษฎรเจ้าของสวนกลัว ไม่อาจจะตัดฟันไม้ที่เสียลง ก็ทนเสียอากรตลอดไป ราษฎรจึ่งไม่อาจปลูกต้นไม้แซมขึ้นอิกได้ ครั้งนี้ทรงพระราชดำริห์ว่า สวนในกรุงเทพมหานครแลหัวเมืองเจริญขึ้นมาก ราษฎรทำสวนขึ้นใหม่อีกก็มาก ผลไม้ก็มีราคาแพง เปนสินค้าต่างประเทศได้บ้างก็มี ซึ่งราษฎรจะแกล้งตัดฟันต้นไม้ซึ่งมีผลเสียนั้นก็จะไม่เปน จะตัดฟันก็แต่ไม้ที่เสียไม่มีประโยชน์ หวังจะปลูกสร้างขึ้นใหม่ให้เปนประโยชน์แก่ตน ทรงพระราชดำริห์ว่า ถ้าจะยอมให้ราษฎรตัดฟันต้นแลผลไม้ เงินอากรจะตกลงมาน้อยเท่าใด ก็เหนว่าเปนคุณประโยชน์แก่ราษฎรเปนอันมาก จะได้มีใจอุสาหลูกสร้างปลูกสร้างต้นผลไม้ขี้นไหม่ให้มากเปนคุณประโยชน์แก่แผ่นดินอีก จึ่งมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทให้ประกาศพระบรมวงษานุวงษข้าทูลอองธุลีพระบาทผู้สำเรจราชการเมืองกรมการแลราษฎรเจ้าของสวนในกรุงแลหัวเมืองให้ทราบทั่วกัน ในปีจอฉศกนี้ จะโปรดเกล้าฯ ให้ข้าหลวงออกรังวัดสวนต้นผลไม้ สิ่งไรซึ่งไม่มีผล ราษฎรจะตัดฟันปลูกสร้างขึ้นใหม่นั้น โปรดเกล้าฯ ให้ยกเสีย ไม่ให้ปรับไหมสักหลังโฉนดเปนไม้โทษเหมือนอย่างแต่ก่อน ให้ราษฎรหมั่นปลูกสร้างต้นผลไม้ทำนุบำรุงเรือกสวนของตัวให้มีความเจริญเปนผลประโยชน์แก่ตนต่อไปเทอญ ๚ะ
ประกาศมาณวันอาทิตย ขึ้นค่ำหนึ่ง เดือนแปดปถมาสาธ ปีจอฉศก ศักราช ๑๒๓๖ เปนปีที่เจดในราชการปัตยุบันนี้ ๚ะ
๏ด้วยพระรัตนโกษาเจ้ากรมพระคลังสินค้าได้นำความเรื่องนี้ขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ครั้นความทราบฝ่าลอองธุลีพระบาทแล้ว จึ่งมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้ตีพิมพ์ประกาศบันดาขุนพัดนายบ่อนราษฎรไทจีนให้รู้ทั่วกันว่า เดิมปีวอกจัตวาศกมีพิกัดแต่ว่า ผู้ใดลักใส่บ่อนต่าง ๆ ถ้าขุนพัดจับได้ ปรับนายบ่อนผู้ลักใส่บ่อนเปนเงิน ๑๐ ตำลึง ให้ปรับนักเลงผู้เล่นเสมอคล ๗ ตำลึง ฝ่ายผู้ซึ่งลักใส่บ่อนแลนักเลงผู้เล่นก็หาเขดหลาบไม่ เพราะค่าปรับนั้นน้อยกว่าเงินที่เล่นได้กันเสียกัน ในจำนวนปีรกาเบญจศกนี้มีพระราชดำรัสสั่งโปรดให้เจ้าพนักงานจัดแก้พิกัดใหม่ ๚ะ
๏ถ้าบ่อนโปกำโปปั่น ให้ปรับนายบ่อนผู้ลักใส่บ่อนให้เสียเงินค่าสินบล ๒ ชั่ง ค่าปรับ ๓ ชั่ง รวมเปนเงิน ๕ ชั่ง ถ้าบ่อนถั่ว ให้ปรับนายบ่อนผู้ลักใส่บ่อนให้เสียเงินค่าสินบนชั่ง ๑ ค่าปรับ ๒ ชั่ง รวมเปนเงิน ๓ ชั่ง ถ้าบ่อนไพ่ผ่องเลก ไพ่ผ่องใหญ่ ไพ่ฮวนเจียว ไพ่ฮกเกี้ยน ๔ อย่าง