มักเกิดอันตราย ขอเชิญเสด็จเข้าไปเสวยราชสมบัติอยู่ดังเก่า แผ่นดินจึงจะเปนปรกติสืบไป พระราชบุตรทั้งสององค์เห็นชอบด้วย ซุยก๊กกับบันของก็ผูกม้าถวายสองม้าแล้วเชิญเสด็จไป ครั้นมาทางประมาณสามร้อยเส้น พอพบอ้องอุ้นหนึ่ง อิวปิ๋วหนึ่ง ซุนเซนหนึ่ง เตี๋ยวเปงหนึ่ง เปาสุ้นหนึ่ง อ้วนเสี้ยวหนึ่ง คุมทหารประมาณห้าร้อย ครั้นเห็นพระราชบุตรทั้งสองมา ก็ลงจากม้าร้องไห้เข้าไปรับเสด็จ แล้วซุยก๊กกับบินของก็เล่าเนื้อความให้ฟัง ขุนนางทั้งหกคนแจ้งแล้ว จึงเอาสีสะด๋วนกุยขันทีให้ม้าใช้เอาเข้าไปประกาศแก่ราษฎรในเมืองหลวง แล้วแต่งรถรับเสด็จพระราชบุตรทั้งสอง ไปทางประมาณร้อยเส้นเศษพบทหารกองหนึ่งยกมาเปนอันมากมิได้รู้ว่าเปนทัพผู้ใด ขุนนางทั้งปวงตกใจ แต่อ้วนเสี้ยวนั้นขี่ม้าขึ้นไปหน้าทหารทั้งปวงแล้วร้องถามว่า ทัพผู้ใดยกมา ทหารมิได้ตอบประการใด แลตั๋งโต๊ะได้ยินก็ขับม้าขึ้นมาหน้าทหาร แล้วร้องถามว่า พระราชบุตรอยู่แห่งใด มาด้วยในกองทัพนี้หรือหาไม่ หองจูเปียนตกใจนิ่งอยู่ แต่หองจูเปียนผู้น้องจึงร้องบอกว่า ทัพผู้ใดมาถามหาหองจูเปียน ตั๋งโต๊ะบอกว่าข้าพเจ้าชื่อตั๋งโต๊ะเปนเจ้าเมืองซีหลง หองจูเหียบจึงว่า มานี้จะขบถหรือจะประสงค์สิ่งใด ตั๋งโต๊ะจึงว่าข้าพเจ้ามิได้เปนขบถจะมารับเสด็จดอก หองจูเหียบจึงว่าจะมารับเสด็จแล้วเปนไฉนจึงไม่ลงจากม้าเล่า ตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงลงจากม้าแล้วเข้ามากราบถวายบังคม ห้องจูเหียบจึงว่า ท่านนี้มิเสียแรงเปนขุนนางผู้ใหญ่ใจสัตย์ซื่อคำต้นคำปลายต้องกัน ตั๋งโต๊ะได้ยินดังนั้นจึงคิดแต่ในใจว่า
หน้า:Sam Kok 1928 (1).djvu/71
หน้าตา