โคลงยอพระเกียรดิพระเจ้ากรุงธนบุรี/โคลง

จาก วิกิซอร์ซ
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
โคลงยอพระเกียรดิพระเจ้ากรุงธนบุรี

 นายสวนมหาดเล็กเจ้า จอมกษัตริย์
แถลงเรื่องราชศรีสวัสดิ์ กราบเกล้า
ถวายต่างบุษปรัตน์ มาลย์มาศ
ภุมวารเดือนเก้า สิบขึ้นเถาะตรี[1]
 บังคมบทรัชไท้ ทรงทศ ธรรมนา
พระปิ่นอยุธยายศ ยอดฟ้า
ขอแถลงนิพนธ์พจน์ เฉลิมบาท พระเอย
ไว้พระเกียรดิท่วมหล้า โลกเหลื้องฦๅบุญ ฯ
 บุญพระภูวนาถเกล้า จักรพาฬ
ทรงฤทธิ์เดโชชาญ เชี่ยวพ้น
พระสติวิทยาญาณ ขยันยอด ชนแฮ
ทรงสมาธิปัญญาล้น แหล่งหล้าฤๅเสมอ ฯ
 เสมอองค์หริรักษ์เรื้อง รงค์รุทร์
ลล่วพาหนะครุฑ สู่หล้า
ฤๅจรจากเกษียรสมุทร์ มาทวีป นี้แฮ
เนื้อหน่อพุทธพงศ์กล้า ก่อสร้างโพธิญาณ ฯ
 พระตรีญาณประเวศด้วย นรชน
เห็นทุกข์เมทนีดล แด่ขว้ำ
ยลสาสนพระพุทธพล โรยร้อย
หวังช่วยเชิดชูปล้ำ ปลุกให้คงเกษม ฯ
 จึ่งยกพยุหยาตรข้าม กันดาร ชเลนา
จรจากจันทบูรสถาน ท่านไท้
สถิตธนนครินราญ อริราช
หวังสาสนสมบูรณ์ให้ เทพซร้องสดุดี ฯ
 ฝูงทวยราษฎรทั้ง พสุธา
มาพึ่งบารมีมา มากพร้อม
ภักดีอยู่ถนอมบา ทุการาช
บาทพระเปนมกุฎย้อม โลกให้คืนเกษม ฯ
 พระการุญภาพเลี้ยง พลพล
ทั่วทศทิศาชน ชื่นพร้อม
โดยมีวิทยาคน ขยันยิ่ง
เติมแต่งเต็มขนาดย้อม ยกขึ้นควรฐาน ฯ
 แม้พระจักรรัตน์เจ้า จักรพาฬ
ไป่เสด็จสู่ธนสถาน ที่นี้
หมู่นรากรจะลาญ ลาชีพ
เพื่อภุดาหารกี้ ก่อนสิ้นสุดหา ฯ
๑๐
 พระมามอบชีพช้อน ชีพิต
อวยโภชนทานอุทิศ ทั่วได้
อเนกบริจาคนิตย์ สนองสาส นานา
ธรณิศหวาดไหวไหว้ เชิดชี้ชมผล ฯ
๑๑
 พระคุณอเนกเถ้า สยามภู
ยกหมู่นรชนชู ชีพไว้
ทรงธรรมิกราชตรู ตราโลก
เปนมกุฎแก่นไท้ ทั่วท้าวฤๅเสมอ ฯ
๑๒
 จึ่งแต่งฐานที่ตั้ง ภูมไชย
ให้สถิตถาวรไป ตราบเท้า
กัลปาวสานใน ธรณิศ
ธนบุรินปิ่นเกล้า ตริสร้างเวียงสถาน ฯ
๑๓
 เมืองเก่าดูรดะด้วย รนามวัน
พงพ่านผักโหมหัน แหกขึ้น
กองกอบอศุภสรรพ์ เนียรชีพ
ครั้นพระมาสถิตฟื้น กลับแผ้วผ่องไสว ฯ
๑๔
 ภูมสถานที่สถิตไท้ ไชยสถาน
พ่างพิษณุกรรมชำนาญ เษกสร้าง
ราชวังมุขวิมาน มูลเกิด มีนา
เรือนรัตนซ้ายขวากว้าง เพียบพื้นภูวดล ฯ
๑๕
 มีฉนวนขนานน้ำพ่วง ขนัดแพ
เปนที่ลานสมรแล ล่อฟ้า
โรงทองพระลานแด ดูถง่าน พระเอย
โรงพระอาภรณ์อ้า ร่ำรื้อฤๅถึง ฯ
๑๖
 โรงสรรพยุทธไว้ ศัสตรา
โรงอัศวคเชนทรา เพริศแพร้ว
โรงสุธรรมพิพากษา คดีราษ ฎรแฮ
โรงพระโอสถแผ้ว โรคให้มลายหาย ฯ
๑๗
 พระคลังทวาทัศถ้วน โภคี
สมบัติเหมือนมามี มากพร้อม
ศาลามาตยมนตรี เตรียมเฟ่า
ทิมกระท่อมพลล้อม รอบรั้ววังใน ฯ
๑๘
 ป้อมค่ายคูเขื่อนขั้น ปราการ
ในนอกวังเวียงสถาน ท่านไท้
หอรบวิชัยชาญ เรียงรอบ
สบสรรพาวุธไว้ ผดับเบื้องบทศรี ฯ
๑๙
 ดูดุจเธอเทพแท้ นฤมิต
ฤๅวิษณุกรรมปลิด จากฟ้า
ถ่อมถวายพระบรมสิทธิ์ ทรงเดช
เลอวิไลยงามหล้า เลิศล้ำบุญสนอง ฯ
๒๐
 มีคชกิริณิศแก้ว เศวตวงศ์
รอยว่าอินทรอวยลง สู่ไท้
มีสินธพชาติพงศ์ ขัตติยอาสน์
มีมุขมนตรีใต้ ฟากฟ้าฤๅเสมอ ฯ
๒๑
 มีอัคเรศฝ่ายซ้าย ขวาผจง
หมู่พระสนมองค์ อ่อมพริ้ม
ย่อมเผ่าขัตติยพงศ์ เมืองออก
โลกเลงสมรปิ้ม ล่มล้มเททรวง ฯ
๒๒
 แต่ละองค์ทรงภาคยเพี้ยง พิมพ์สวรรค์ แลฤๅ
ฤๅว่าจันทรแจ่มจรัล สู่ไท้
วิมลมุขภมูฉัน ฉายเฉิด ฉมนา
ศุภลักษณวิไลยไล้ เลื่อนฟ้ามาดิน ฯ
๒๓
 มาทูลถนอมบาทไท้ ขจรขจาย
ดูดุจดาราราย เรื่อฟ้า
ล้อมจันทรพิมลหมาย หมดเมฆ
จันทร์เฉกจอมภพหล้า เลิศล้วนควรชม ฯ
๒๔
 มีนรนาริศเรื้อง รำบำขำ
วรรูปสุนทรารำ เรื่อยร้อง
ชูเฉลิมราชฐานบำ เรอราช
เปนที่สุขเขษมซร้อง พรั่งพริ้มเพราไสว ฯ
๒๕
 มโหรีเชิงม่านแม้น พิณอินทร์
เปนที่นฤบดินทร์ยิน ยั่วล้ำ
ดั่งอับสรเทวินทร์ ขับถ่อ ถนอมนา
เหมือนจะส่ออกซ้ำ แซกซ้ำนำเขษม ฯ
๒๖
 เจ้ายั่วสี่ท้าวท่าน สง่างาม
นักพฤฒิพระสนมนาม สี่ถ้วน
เฉลิมฉลองพระโอษฐตาม กิจราช
ชาวชแม่แลลานล้วน ล่อล้อมรวังองค์ ฯ
๒๗
 ฝ่ายหมู่มุขมาตย์เฝ้า บริบาล
ชาญกิจชาญรงคชาญ เลิศล้วน
สมุหกลาโหมหาญ หาญยิ่ง
นายกยกพจนถ้วน ถี่ถ้อยขบวรความ ฯ
๒๘
 จัตุสดมภ์เดชล้วน รบือนาม
หกเหล่าอาสาสนาม แกว่นแกล้ว
แปดตำรวจรวดเร็วตาม กมลราช
มหาดเล็กชาววังแพร้ว พรั่งพร้อมรวังวัง ฯ
๒๙
 นักองค์รามนเรศแม้น รามา
เปนปิ่นกัมพูชา ใช่น้อย
นักฟ้าทลหะมหา อุปราช เขมรแฮ
มาพึ่งบทรัชช้อย ชื่นเฝ้าบริบาล ฯ
๓๐
 แขกชวาวรเทศทั้ง มลายู
จีนฝรั่งลันดาดู ดาษเฝ้า
ลาวมอญย่อมถนอมชู วรบาท พระนา
พระกรุญเหนือเกล้า กล่อมเลี้ยงควรฐาน ฯ
๓๑
 ล้วนหมู่พยุหยศหย้อม ยืนรงค์
ทุกหมวดทุกกระทรวงทรง ฤทธิเรื้อง
คุณวุฒิวิทยาคง ทนศาสตร์
ย่อมชนะนคราเบอง ต่ำใต้ฤๅเสมอ ฯ
๓๒
 พลหาญหาญมหิทธิห้าว รณรงค์
ชัยสิทธิฤทธาตรง ต่อไท้
ปราบเนียรชีวิตวงศ์ อริราช
พระเกียรติยศได้ ท่วมฟ้าดินเสทือน ฯ
๓๓
 พระเดชานุภาพพ้น พงศ์กษัตริย์
ควรแก่เศวตฉัตรรัตน์ เรื่อฟ้า
เปนหลักโลกุดมดัด ใจโลก
ด้วยบุรพบารมีกล้า กว่ากล้ากลับแขง ฯ
๓๔
 ใครอาจอาตมตั้ง ตัวผจญ ได้ฤๅ
พ่ายพระกุศลพล ทั่วท้าว
ปราบดาภิเษกบน ภัทรบิฐ บัวแฮ
สมบัติสมบูรณ์ด้าว แด่นฟ้ามาปาน ฯ
๓๕
 ใครที่โมหมืดไหม้ สเทือนฤทธิ์
รอยว่าเวรตามปลิด ชีพม้วย
ที่แขงแข่งอิทธิฤทธิ์ ภูวนาถ
ย่อมระยำยับด้วย ปิ่นเกล้าธรณี ฯ
๓๖
 ปางเมืองนครราชตั้ง ตัวปทุษฐ์
ก่อพิกลการยุทธ ศึกสร้าง
พระยกพยูหรุด ราญราบ
น้อยโทษเลี้ยงใหญ่ล้าง ชีพสิ้นสูญหาย ฯ
๓๗
 ปางปาตลิบุตรเจ้า นัครา
แจ้งพยศเดชา ปิ่นเกล้า
ทรนงศักดิ์อหังการ์ เกกเก่ง อยู่แฮ
ยังไป่น้อมประนตเข้า สู่เงื้อมบทมาลย์ ฯ
๓๘
 ยกพยุหยาตรเยื้อง บทศรี
ดังพระกฤษณตรี โลกล้น
พลหาญหื่นมหิทธิมี ฤทธิภาพ
ทลวงล่วงเขตนครปล้น ไล่ลุ้ยทลุยไป ฯ
๓๙
 เจ้าปาตลิบุตรนั้น อัปรา ชัยเอย
ไปสถิตเทพาพา พวกแพ้
หนีเข้าพึ่งตนนา ทัพเล่า
ทัพราชรีบรบแหร้ แขกม้วยเมืองทลาย ฯ
๔๐
 จึงยกอพยกเจ้า ตานี
พญาแขกเกรงบารมี ส่งให้
มาถวายกับบุตรี มาลย์มิ่ง เมืองนา
พระประทานอภัยให้ กลับเลี้ยงเปนเฉลิม ฯ
๔๑
 ปางสวางคบุเรศร้าย รแวงผิด
พุทธบุตรละพุทธกิจ ก่อแกล้ว
ทุศิลทุจริตอิจ ฉาราช
เสด็จปราบสัตวบาปแผ้ว ฟอกฟื้นสาสนา ฯ
๔๒
 แล้วฉลองพุทธธาตุแท้ สุจริต
สมณะบรรพชิต ใช่น้อย
พระอวยธนอุทิศ ทานทั่ว
มีมหรศพช้อย ชื่นช้อยชนเขษม ฯ
๔๓
 เมืองชัยที่ร่วมร้าย เวียงสวางค์
พ่ายพระเดชคุณปาง ปิ่มม้วย
กลับน้อมศิโรตมางค์ มาเล่า
มาภักดิ์เปนทหารด้วย อยู่ใต้บาทบงสุ์ ฯ
๔๔
 ปางปาตลิบุตรทั้ง เวียงสวางค์
นครราชสิมาหมาง ปิ่นหล้า
ถ้าแต่หมู่ทหารกลาง หมวดหนึ่ง ก็ดี
ก็จะมีชัยแก่ข้า ศึกเสี้ยนสยบแสยง ฯ
๔๕
 พระเห็นพลพระห้าว เหลือหาญ
เกรงราษฎรจะลาญ ชีพม้วย
จึงเสด็จผดับการ รงค์รวด ระงับแฮ
หวังปราบหวังกรุญด้วย ดั่งนี้ทรงถวิล ฯ
๔๖
 ครั้นดับเด็จร้ายทั่ว ธรณี
หมู่มาตยเปรมปรีดี ทั่วได้
บำเหน็จพระพูลทวี ทุกเมื่อ
ทรัพยกองโกยให้ ทุกเถี้ยวโดยหวัง ฯ
๔๗
 ทหารเอกพระมอบหมั้น เมืองเอก
ตามที่ตรีโทเษก ส่งให้
ขนานนามย่อมอดิเรก ดำแหน่ง มีนา
ทั้งราชนิกูลไท้ เษกสร้างตามขบวร ฯ
๔๘
 เจ้าดารานเรศเรื้อง รวิวงศ์
ทรงพระกรุณาปลง โปรดให้
ครองปาตลิบุตรทรง ธรณิศ
ตั้งพระหฤทัยไท้ ท่านตั้งตามสถาน ฯ
๔๙
 เจ้าพระยาอนุชิตเชื้อ อาสา
ครองพิษณุโลกา เพริศแพร้ว
เจ้าพระยาพิชัยรา ชาชื่อ ฦๅแฮ
ครองสวรรคโลกแผ้ว ผ่องน้ำใจถวิล ฯ
๕๐
 เจ้าพระยาอนุรักษ์เรื้อง รงค์รุทร์
ครองนครสวรรค์ผุด ผาดแผ้ว
ฤทธิ์จะประมาณสุด คำร่ำ ถึงฤๅ
เจ้าพระยาสรรค์ทแกล้ว โปรดให้เมืองสรรค์ ฯ
๕๑
 บำเหน็จดำแหน่งน้อย พอประมาณ ก็ดี
พระโปรดประทานสถาน ที่ได้
เปนพระยาพระหลวงทหาร ในนอก
เมืองเอกโทตรีให้ ครอบเลี้ยงประชาชน ฯ
๕๒
 ประมวญนัคเรศแคว้น อยุธยา
หนฝ่ายใต้เหนือมา ท่วนทั้ง
ร้อยสบุรีสถา พรทั่ว สถานแฮ
พระมอบมาตยไปตั้ง แต่งไว้เปนเฉลิม ฯ
๕๓
 นานาประเทศขึ้น ยังหลาย
เปนที่ทูลทางถวาย ดอกไม้
หิรัญรัตนทองพราย สรรพส่ง มานา
ทั้งพระยาไทรไซร้ มอบเกล้าสดุดี ฯ
๕๔
 ตานีนัคเรศเจ้า นครา
ส่งสุวรรณบุษปมา กราบเกล้า
น้อมถวายปิ่นอยุธยา ภูวนาถ
กลัวรักภักดีเจ้า สู่เงื้อมบทมูล ฯ
๕๕
 กรุงศรีสัตนาคเจ้า กรุงกษัตริย์
ทรงพระสุพรรณบุตร บอกร้อน
น้อมถวายบุษปรัต นมาศ มานา
มาพึ่งบารมีต้อน ตัดร้ายรอนเข็ญ ฯ
๕๖
 ท้าวทั่วนัคเรศน้อม พนมกร
ทรงสุวรรณมาลย์จร จรดเกล้า
มาถวายบทบวร วรราช
ถ้วนอัษฎาทิศเข้า นอบน้อมสดุดี ฯ
๕๗
 พระเดียวบุญลาภเลี้ยง ประชากร
เปนบิตุรมาดร ทั่วหล้า
เปนเจ้าและครูสอน สั่งโลก
เปนสุขทุกถ้วนหน้า นิกรทั้งชายหญิง ฯ
๕๘
 เปนที่พำนักถ้วน นรชน
เปนที่กรุณาคน ยากไร้
เปนที่ส่งสัตวดล เมืองโมกข์
เปนทรัพยปจุบันให้ ทั่วหน้าเนืองเขษม ฯ
๕๙
 พระยลพลหนักแหน้น พสุธา
ขยายยักนัครามา ใหม่สร้าง
เทียมสรวงบุรีสถา พรทั่ว สถานเฮย
มหรศพครบสิ่งสล้าง หลากเหล้นงารฉลอง ฯ
๖๐
 แล้วให้ประลองศาสตรถ้วน ขบวรหาญ
สารคชคชสารผสาน แกว่นกล้า
ม้าทวนต่อทวนทาน แทงร่อ รำแฮ
ม้าครุบคลีกระบี่ม้า วิ่งม้าพนันเร็ว ฯ
๖๑
 พลหาญเปนคู่เข้า ผชัญหาญ
โหมฮึกครึกโครมทยาน ขู่คู้
เคยหักอริราญ เร็วรวด
นี่สิรู้ต่อรู้ ไป่แพ้พอเสมอ ฯ
๖๒
 เสโล่ห์ต่อโล่ห์เลี้ยว ประลองเชิง
พลดาบสองมือถเกิง ต่อสู้
ต่างมีฤทธิแรงเริง สุรยิ่ง ขยันแฮ
โถมฟาดศัสตราหยู้ ผัดเหล้นเปนเฉลิม ฯ
๖๓
 ดาบดั้งดึงโดดดั้น จบันแรง
แขกกระบี่คำแหงแขง แข่งเหล้น
กระบี่ต่อกระบี่แทง ฟันฟาด กันนา
ทวนต่อทวนตื่นเต้น สู่สู้ดูขยัน ฯ
๖๔
 พลง้าวกวัดง้าวง่า งอนงาม
พิฦกแลควรขาม พรั่นไส้
หมู่ตบองต่อตบองตาม ขบวนไล่ กันนา
เหล็กก็เหล็กนิไม้ ต่อไม้กลางสนาม ฯ
๖๕
 สองมือพลหอกหง้าม หอกเขน
หอกกบังบังอาตม์เจน จ่อจ้อง
หอกคู่ตละคู่เกณฑ์ กะคู่ กันนา
คู่กฤชฤทธิปกป้อง ปัดเหล้นหลายกล ฯ
๖๖
 สุดสิ้นอาวุธสิ้น ขบวรถือ
มวยหมัดจัดผจัญมือ หมัดหมั้น
มวยหญิงยิ่งหญิงฤๅ ชายเปรียบ เสมอแฮ
เคียนคาดคู่ถันคั้น แปลกเบื้องขบวรชาย ฯ
๖๗
 มวยเตี้ยก็ต่อเตี้ย ตุมรัด
เหมือนเต่ากับกบกัด เก่งจ้าน
พึ่งเห็นพึ่งอุบัติ บังเกิด มีแฮ
สิ้นฤทธิแรงโรยคร้าน ขอดหน้าตาหมอง ฯ
๖๘
 เสร็จการสยมโภชให้ รางวัล
ท่วนทุกคนครันครัน แต่ได้
สามวันบริจาคปัน ทานทั่ว ชนนา
สรรพสิ่งสรรค์ให้ ทั่วแท้ไทยทาน ฯ
๖๙
 พระทานผู้ได้ย่อม ทำบุญ
ย่อมแผ่กุศลรุน ส่งไท้
เปนเนืองนิตยสุน ทรสรร เสริญนา
พระจะสุขสวัสิได้ ยืดแท้ตามผล ฯ
๗๐
 จะภิยโยภาพด้วย ปรีชาญ
ตราบตรัสโพธิญาณราญ บาปแคล้ว
จะเรืองเกียรดิพิศาล สุดโลก
ด้วยบุรพบารมีแกล้ว เลิศล้ำแดนไตร ฯ
๗๑
 ขอพรพระพุทธเรื้อง สพัญญู
จงแผ่พระเดชชู ปิ่นเกล้า
ตราบเสร็จโพธิญาณตรู ตราโลก
ดัดเด็จปัญจขันธ์เข้า สู่ห้องนฤพาน ฯ
๗๒
 ขอพรสธรรมเจ้าช่วย ผชุมธรรม์
แปดหมื่นสี่ธรรมขันธ์ ช่องชี้
พระไตรปิฎกพลัน สิงสู่ พระนา
ให้พระปัญญานี้ ตรัสรู้ถ่องถวิล ฯ
๗๓
 ขอพรพุทธบุตรผู้ พุทธพงศ์
เธอที่สุทธิศิลทรง ถ่องถ้วน
ให้พระบริบาลคง ธรณิศ ยืนนา
ไหลหลั่งโภคแหล่ล้วน สู่ไท้นิจกาล ฯ
๗๔
 ขอพรประเมศวร์เจ้า อมรแมน
ทรงอาสน์อุศภแดน ฟากฟ้า
เชิญช่วยบพิตรแสน สามารถ
เลงทิพนัยนกล้า แหล่งล้วนชวนเห็น ฯ
๗๕
 ขอพรหริรักษ์เรื้อง จักรา วุธเอย
ภูวฤทธิจงฤทธิมา แก่ไท้
ปราบมารหมู่ประจา มิตรราช
ให้ประสิทธิชัยให้ ศึกเสี้ยนสยบแสยง ฯ
๗๖
 ขอพรกมลาสน์ท้าว ทรงหงส์
ให้พระศรีกายจง อย่าเศร้า
พระชนมยืดยาวคง พันขวบ
ให้อับสรสนมเฝ้า นับร้อยพันทวี ฯ
๗๗
 ขอพรเทวราชไท้ เทวกรรม์
นำเศวตกุญชรจรัล สู่ไท้
ให้ครบทศสารสรรค์ มาสู่ พระนา
เปนชำนินาคให้ ชื่นท้าวชมเขษม ฯ
๗๘
 ขอพรพลาหกไท้ เทวบุตร
ให้ตกตามระดูยุต ติต้อง
อย่าให้ผิดระดูดุจ เดือนแดด
ให้ราษฎรอยู่ซร้อง แซ่ซร้องเย็นเขษม ฯ
๗๙
 ขอพรเทวท่านท้าว วาตา
พาพัดรำเพยพา ชื่นไท้
ขอพรพระคงคา กระแสสมุทร์
อย่ามากอย่าน้อยให้ โภชนนั้นพองาม ฯ
๘๐
 ขอพรยมเรศเรื้อง วโรตมา พยพแฮ
เธอทิพนัยนอา วุธนั้น
ช่วยขจัดหมู่โจรธา นีราช
ให้รื่นพระนครขั้น กวาดร้ายขจายเข็ญ ฯ
๘๑
 ขอพรจัตุโลกท้าว บริบาล
มาช่วยบริรักษ์สถาน ท่านไท้
อย่าให้สัตวบาปพาน เวียงราช
สถาวรวัฒนให้ ปิ่นเกล้าพูลเขษม ฯ
๘๒
 สิ้นสุนทรพจนข้า ขจายแจง
ยังขาดกมลความแฝง อยู่บ้าง
หากมีภักดีแสดง โดยเลศ
ควรมิควรคำอ้าง ผิดเพี้ยนอภัยขอ ฯ
๘๓
 คิดด้วยสุจริตด้วย กตัญญู
คุณพระปกกระหม่อมชู ชื่นซร้อง
หาสิ่งจะสนองภู ธรสุด สนองนา
จึ่งแต่งตามขบวรต้อง เรื่องไว้เปนเฉลิม ฯ
๘๔
 หวังให้กุลบุตรเบื้อง อนาคต
ให้ปรากฎเกียรติยศ ปิ่นเกล้า
ไป่ยลแต่สดับพจน์ ราวเรื่อง สนองนา
ก็จะสาธุการเช้า ค่ำชี้ชมผล ฯ
๘๕
 จะแถลงพากย์วากย์ทั้ง ขบวรฉันท์
ลิลิตกาพยวิสรร ชง่ายพร้อง
เพลงยาวกิจเลอคัน โลงลอก ดีนา
เรื่องสิใหญ่โคลงคล้อง ชอบถ้อยขบวรความ ฯ
จบบริบูรณ์

  1. พ.ศ. ๒๓๑๔