หน่อยหนึ่ง แลเมื่อได้ชนช้างด้วยมหาอุปราชานั้น สมเด็จพระนารายน์บพิตรเปนเจ้าต้องปืนณพระหัดถ์ข้างขวาหน่อยหนึ่ง อนึ่ง เมื่อมหาอุปราชาขี่ช้างออกมายืนอยู่นั้น หมวกมหาอุปราชาใส่นั้นตกลงเถิงดิน แลเอาคืนขึ้นใส่เล่า ครั้งนั้น มหาอุปราชาขาดฅอช้างตายในที่นั้น แลช้างต้นพระญาไชยานุภาพซึ่งทรงแลได้ชนด้วยมหาอุปราชาแลมีไชยชนะนั้น พระราชทานให้ชื่อเจ้าพระญาปราบหงษา.
ศักราช ๙๕๕ มะเสงศก วัน ๒ ๕ฯ ๑๐ ค่ำ เสด็จเถลิงพระมหาปราสาท ครั้งนั้น ทรงพระโกรธแก่มอญ ให้เอามอญเผาเสียประมาณ ๑๐๐ ณวัน ๖ ๑๐ ฯ ๒ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๖ บาท เสด็จพยุหบาตราไปเอาเมืองละแวก แลตั้งทัพไชยตำบลบางขวด เสด็จไปครั้งนั้น ได้ตัวพระญาศรีสุพรรณในวัน ๑ ๑ฯ ๔ ค่ำนั้น.
ศักราช ๙๕๖ มะเมียศก ยกทัพไปเมืองสะโตง.
ศักราช ๙๕๗ มะแมศก วัน ๑ ๓ฯ ๑ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๙ บาท เสด็จพยุหบาตราไปเมืองหงษา ครั้งก่อน ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลม่วงหวาน เถิงวัน ๒ ๑๓ฯ ๔ ค่ำ เพลาเที่ยงคืนแล้ว เข้าปล้นหงษามิได้ ทัพหลวงเสด็จกลับคืนมา.
ศักราช ๙๕๘ วอกศก วัน ๓ ๔ฯ ๖ ค่ำ ลาวหนี ขุนจ่าเมืองรบลาวตำบลตะเคียนด้วน แลณวัน ๕ ๖ฯ ๓ ค่ำ ฝนตกหนักหนาสามวันดุจฤดูฝน.
ศักราช ๙๖๑ กุญศก วัน ๕ ๑๑ ฯ ๑๑ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๒ นาฬิกา ๘ บาท เสด็จพยุหบาตราไปเมืองตองอู ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลวัดตาล แลในเดือน ๑๑ นั้น สงกรานต์ พระเสาร์