ข้ามไปเนื้อหา

กฎหมายไทยฯ/เล่ม 1/เรื่อง 38

จาก วิกิซอร์ซ
พระราชบัญญัติ
สำหรับข้าหลวงชำระความหัวเมือง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพย์มหามงกุฎ บุรุศรัตนราชรวิวงษ วรุตมพงษบริพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรติราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถ บพิตร พระจุลจอมเกล้าฯ เจ้าแผ่นดินสยามรัชกาลที่ ๕ ในพระบรมราชวงษซึ่งได้ประดิษฐานแลดำรงค์ศิริราชสมบัติรัตนราไชยมหัยสวริยาธิปัติณกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทรมหินทรายุทธยามหาดิกลภพนพรัตนราชธานีบูรีรมย์อุดมราชนิเวศมหาสถาน ซึ่งเปนพระบรมราชธานีมหานครใหญ่ในราชอาณาจักรแดนสยามฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ เปนบรมราชาธิราชอันใหญ่ในประเทศที่ใกล้เคียง คือ ลาวกระเหรี่ยงมลายูแลประเทศอื่น ๆ ผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสรีฐ เสด็จออกประทับเหนือพระบรมราชอาศนภายไต้พระมหาเสวตรฉัตรณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมหัยสวริยพิมานโดยสถานอุตราพิมุข พร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษแลอัคมหาเสนาธิบดีมุขมนตรีกระวีชาตราชประโรหิตโหราจารย์ฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้าเบื้องบาทบงกชมาศพร้อมกัน จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัศเหนือเกล้าฯ ว่า กรุงสยามกับกรุงอังกฤษได้ทำหนังสือสัญญาเจรีญทางพระราชไมตรีไว้ต่อกันทั้งสองฝ่าย ลูกค้าไปมาค้าขายในพระราชอาณาเฃตรก็หามีเหตุการเกี่ยวข้องข้อความใหญ่ไม่ แต่เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง กับเมืองพม่าซึ่งเปนฝ่ายอังกฤษ เขตรแดนต่อติด ลูกค้าฝ่ายอังกฤษไปมาค้าขาย แลมาตั้งตัดไม้ขอนศักอยู่ในเฃตรแขวงเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง ก็มีโดยมาก มักเปนความเกี่ยวข้องกัน ตระลาการเมืองเชียงใหม่ชำระตัดสินก็หาถูกต้องตามพระราชกำหนดกฎหมายแลข้อหนังสือสัญญาไม่ จึงได้มีความใหญ่เกีดขึ้นในเมืองเชียงใหม่อยู่เนือง ๆ ควรให้ข้าหลวงขึ้นไปเปนตระลาการชำระตัดสินคนชาวต่างประเทศที่เปนความกับคนชาวเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง ให้เปนแบบอย่างถูกต้องตามพระราชกำหนดกฎหมายแลข้อหนังสือสัญญา แต่ทรงพระปริวิตกว่า ข้าหลวงซึ่งขึ้นมาเปนตระลาการชำระความเมืองเชียงใหม่เกลือกจะทำการเหลือเกีนให้แสนท้าวพระยาลาวชาวเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง มีความร้อนรนต่าง ๆ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาภูธราไภยที่สมุหนายก กับที่ปฤกษาราชการแผ่นดิน ตั้งพระราชบัญญัติจัดเปนข้อไว้สำหรับข้าหลวงซึ่งเปนตระลาการชำระความศาลต่างประเทศณเมืองเชียงใหม่ให้กระทำตามข้อพระราชบัญญัติจงทุกข้อทุกประการ ๚ะ

ข้อว่า ข้าหลวงผู้ซึ่งขึ้นมาเปนตระลาการศาลต่างประเทศอยู่ณเมืองเชียงใหม่นั้น ถ้าคนอังกฤศฤๅชาวยุโรปแลพม่าตองซูบันดาที่เปนสัปเยกอังกฤษไปมาค้าขายตั้งทำมาหากินอยู่ณเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง ถ้าจะมีคดีเกี่ยวข้องฟ้องหาความต่อแสนท้าวพระยาลาวแลชาวเมืองเชียงใหม่ ชาวเมืองลำพูน ชาวเมืองนครลำปาง ให้ทำเรื่องราวมายื่นต่อข้าหลวงซึ่งเปนตระลาการศาลต่างประเทศนั้น ก็ให้ตระลาการรับชำระตัดสินความของคนสัปเยกอังกฤษผู้ที่มาฟ้องนั้นโดยยุติธรรมตามกฎหมายกรุงสยาม แลข้อหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีซึ่งคอเวอนแมนต์ฝ่ายยุโรปได้ทำไว้ต่อกรุงสยาม แลสัญญาซึ่งราชทูตออกไปทำต่อไวสรอยณเมืองกะลักตา จงทุกประการ ๚ะ

ข้อถ้าคนสัปเยกอังกฤษจะฟ้องตัวเจ้านครเชียงใหม่ ก็ให้ข้าหลวงตระลาการศาลต่างประเทศนั้นมีจดหมายถึงเจ้านครเชียงใหม่ให้ทราบ เจ้านครเชียงใหม่จะแต่งให้บุตรหลานฤๅแสนท้าวพระยาลาวไปว่าความแทนตัวเจ้านครเชียงใหม่ก็ได้ ๚ะ

ข้อว่า ถ้าคนในสัปเยกอังกฤษจะฟ้องเจ้านายฤๅแสนท้าวพระยาลาว ก็ให้ข้าหลวงมีหมายไปถึงเจ้านครเชียงใหม่ เจ้าอุปราช เจ้าราชวงษ เจ้าราชบุตร ว่า เจ้านายคนนั้นแลแสนท้าวพระยาลาวมิคดีเกี่ยวข้อง ให้เจ้านครเชียงใหม่บังคับให้ผู้ที่ต้องคดีนั้นมาว่าความ ฤๅจะแต่งทนายมาว่าความแทนตัวก็แต่งได้ ถ้าเปนไพร่แลราษฎรชาวเมืองที่ไม่มีบันดาศักดิ์ จะแต่งทนายว่าความแทนตัวไม่ได้ ถ้าผู้ต้องคดีอยู่ไกล้ ให้ส่งในกำหนด ๓ วัน ๕ วัน ถ้าทางไกล ให้ส่ง๗ วัน ๑๕ วัน ๚ะ

ข้อถ้าเจ้านายบุตรหลานแลญาติพี่น้องชายหญิงของเจ้านครเชียงใหม่ก็ดี แลแสนท้าวพระยาลาวซึ่งต้องคดี ถ้าจะแต่งทนายว่าความแทนตัว ให้ตระลาการเรียกเอาหนังสือทานบานกับเจ้านายแลแสนท้าวพระยาลาวผู้ที่ต้องคดีนั้นไว้ให้มั่นคงว่า ทนายผู้ที่ว่าความแทนนั้นว่าความแพ้ ก็ยอมแพ้ด้วย ว่าความชะนะ ก็ยอมจะชะนะด้วย ๚ะ

ข้อความของคนสัปเยกอังกฤษจะฟ้องชาวเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปางก็ดี แลลาวจะฟ้องคนสัปเยกอังกฤษก็ดี เมื่อตระลาการพิจารณาความนั้นเสร็จสำนวนแล้วตัดสิน ถ้าคนฝ่ายสัปเยกที่มีหนังสือเดีนทางสำหรับตัวจะไม่ยอม ก็ให้ตระลาการมีหนังสือชี้แจงข้อความไปถึงตระลาการอังกฤษซึ่งตั้งอยู่ที่ยองสลิน ถ้าไม่ตกลงกัน ก็ให้ตระลาการศาลต่างประเทศเมืองเชียงใหม่มีหนังสือบอกแลส่งเรื่องความลงมาณกรุงเทพฯ เจ้าพนักงานจะได้ว่ากล่าวกับกงสุลอังกฤษให้ตกลงกัน ๚ะ

ข้อให้เจ้านครเชียงใหม่จัดคนชาวเมืองเชียงใหม่ที่รู้จักราชการให้ผลัดเปลี่ยนกันมาคอยรับใช้สำหรับถือหมายผลัดละ ๔ คน แลผู้ที่ถือหมายไปนั้นให้มีคนของข้าหลวงกัมกับไปด้วย จะได้เปนพยานกัน ๚ะ

ข้อให้เจ้านครเชียงใหม่ นครลำปาง เจ้าเมืองลำพูน จัดเจ้านายบุตรหลานฤๅแสนท้าวพระยาลาวมารับฝึกหัดในการที่ชำระความศาลต่างประเทศเมืองละ ๒ นาย ๓ นาย จะได้รู้อย่างธรรมเนียมในการที่ชำระความของชาวต่างประเทศ จะได้รับราชการรักษาบ้านเมืองต่อไป ฯะ

ข้อให้เจ้านครเชียงใหม่จัดคนชาวเมืองเชียงใหม่ที่เปนกองตระเวรมาอยู่รักษารวังเหตุการบ้านที่ข้าหลวงอยู่แลศาลที่ชำระความนั้นไห้เสมอผลัดละ ๒๐ คน สำหรับจะได้ใช้สอยราชการทั้งปวงต่อไป ๚ะ

ข้อค่าธรรมเนียมให้เรียกเอาแก่โจทย์จำเลยตามสมควร ห้ามอย่าให้เรียกเหลือเกีนขึ้นไปเปนอันขาดทีเดียว แลเงินค่าธรรมเนียมนั้นให้เก็บไว้เปนของหลวงสำหรับศาลต่างประเทศอยู่ณเมืองเชียงใหม่ แล้วให้ข้าหลวงตระลาการศาลต่างประเทศพร้อมด้วยเจ้านครเชียงใหม่มีหนังสือบอกข้อราชการเมืองเชียงใหม่ แลส่งฉบบความที่ฟ้องไหม่ ชำระไปแล้ว แลยังค้างอยู่ กับค่าธรรมเนียมความ ลงไปยังกรุงเทพฯ เดือนละครั้งเสมอจงทุกเดือน ๚ะ

ข้อ๑๐ข้าหลวงผู้ที่เปนตระลาการศาลต่างประเทศชำระความอยู่เมืองเชี่ยงใหม่นี้ ถ้ามีการทับศึกแลราชการแผ่นดิน ให้ข้าหลวงเอาเปนธุระดูแลว่ากล่าวให้สมควร ชอบด้วยราชการแผ่นดิน ถ้าคนชาวเมืองเชิยงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง เปนความกันเอง ไม่เปนธุระของข้าหลวง สุตแต่เจ้านายแสนท้าวพระยาลาวเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง จะชำระว่ากล่าวกันตามกระบินเมือง ๚ะ

ข้อ๑๑ห้ามมิให้ข้าหลวงผู้เปนตระลาการแลเสมียนทนายรับสินบน เข้าด้วยฝ่ายโจทย์ฝ่ายจำเลย แลห้ามมิให้ข้าหลวงผู้ซึ่งเปนตระลาการแลเสมียนทนายรับของกำนันผู้ที่มีคดีเกี่ยวข้องเปนโจทย์จำเลยซึ่งเปนความแก่กัน แลมิให้ทำอุบายต่าง ๆ ที่จะให้เกิดผลประโยชน์ในทางความนั้น จงทุกประการ ๚ะ

ข้อ๑๒ห้ามมิให้ข้าหลวงเสมียนทนายซื้อขายสินค้าต่าง ๆ หาผลประโยชน์ผิดอย่างธรรมเนียมข้าหลวงเสมียนขึ้นมาชำระความ แลห้ามมิให้ข้าหลวงเสมียนทนายเล่นไพ่เล่นโปเล่นถั่วฤๅเล่นการพนันต่าง ๆ เสพสุราให้เมาจนเสียสติ แลสูบฝิ่นกินฝิ่น ๚ะ

ข้อ๑๓ห้ามมิให้ข้าหลวงกับเสมียนทนายที่มีธุระอยู่ในการที่ชำระความนั้นมีภรรยาเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง ถึงจะมีผู้ยกบุตรสาวน้องสาวหลานสาวแลญาติพี่น้องให้โดยความสุจริตมิใด้คิดเปนสินจ้างสินบล ก็ห้ามมิให้รับเปนอันขาด ๚ะ

ข้อ๑๔กิจธุระที่เปนการในบ้านเรือนของข้าหลวง แลการงานทั้งปวงที่เปนธุระอื่นมิใช่เปนราชการ ก็ให้ข้าหลวงใช้คนไพร่ที่ขึ้นไปด้วยจากกรุงเทพฯ ถ้าจะไม่ใช้คนไพร่ที่ขึ้นไปด้วย ก็ให้จ้างชาวบ้านชาวเมืองใช้เปนมูลค่าตามการหนักการเบา ห้ามมิให้กะเกณฑ์ขอร้องต่อเจ้านครเชียงใหม่แลเจ้านายแสนท้าวพระยาลาว ๚ะ

ข้อ๑๕เจ้านายแสนท้าวพระยาลาวราษฎรชาวบ้านชาวเมืองจะฟ้องหากล่าวโทษเสมียนทนายบ่าวไพร่ของข้าหลวงก็ดี ถ้าเสมียนทนายบ่าวไพร่ของข้าหลวงจะฟ้องเจ้านายแสนท้าวพระยาลาวแลราษฎรชาวบ้านชาวเมืองก็ดี ก็ให้ไปฟ้องร้องกันยังสนามที่ชำระความสำหรับเมือง ถ้าลาวจะฟ้องไทยพวกข้าหลวง ก็ให้ข้าหลวงส่งตัวผู้ต้องคดีนั้นไปว่าความยังสนามที่ชำระความสำหรับเมีองโดยเร็ว ถ้าตระลาการเมืองเชียงใหม่ชำระความนั้นเสร็จสำนวนแล้ว ให้เจ้านายแสนท้าวพระยาลาวให้ผู้ที่เปนเจ้าพนักงานชำระความนั้นนำความมาเสนอต่อข้าหลวง ให้ข้าหลวงปฤกษาด้วยเจ้านายแสนท้าวพระยาลาวเหนพร้อมกันแล้ว ความนั้นจึงตกลงเปนแพ้ชะนะกันได้ ถ้าข้าหลวงกับเจ้านายแสนท้าวพระยาลาวเหนความไม่ต้องกัน ก็ให้มีหนังสือบอกส่งแต่ถ้อยคำสำนวนลงมาณกรุงเทพฯ เจ้าพนักงานจะได้ตัดสินขึ้นไปให้เปนอันตกลงแล้วแก่กัน ๚ะ

ข้อ๑๖ผู้ซึ่งจะรับราชการขึ้นมาเปนตระลาการศาลต่างประเทศอยู่ณเมืองเชียงใหม่นี้ ให้อุสาห์ประพฤติการตามพระราชบัญญัตินี้จงทุกข้อ ให้เว้นการที่ไม่ควรจะประพฤติที่เปนการห้ามในพระราชบัญญัติจงทุกประการ แลผลประโยชน์สิ่งอื่น ๆ ซึ่งโปรดเกล้า ห้ามเสียนั้น เพราะทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้า พระราชทานเงินเดือน ให้รับพระราชทานเหนว่าภอสมควรอยู่แล้ว ถ้าผู้ซึ่งเปนข้าหลวงเสมียนทนายบ่าวไพร่ไม่ประพฤติตามพระราชบัญญัตินี้ ล่วงพระราชบัญญัติไปข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ถ้าชำระไต่สวนได้ความจริงแล้ว จะลงพระราชอาญาตามพระราชกำหนด จะได้เปนแบบอย่างแก่ข้าทูลลออง ๆ ผู้ซึ่งจะรับราชการฉลองพระเดชพระคุณต่างพระเนตรพระกรรณ์ต่อไป ให้ผู้ซึ่งเปนตระลาการเสมียนทนายแลไพร่ขึ้นมาอยู่ณเมืองเชียงใหม่ประพฤติการให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติแลหนังสือสัญญาจงทุกข้อทุกประการ พระราชบัญญัติให้ไว้ณวันจันทร เดือนสิบสอง ขึ้นสิบห้าค่ำ ปีจอฉศก เปนปีที่เจดในรัชการปัตยุบันนี้ ๚ะ