ข้ามไปเนื้อหา

กฎหมายไทยฯ/เล่ม 5/เรื่อง 4

จาก วิกิซอร์ซ
ปะกาศว่าด้วยไม่ให้กักขัง
คนที่จะกลับไปบ้านเมืองของตนในฝั่งซ้าย
ฟากตวันออกแม่น้ำโขง

ด้วยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธ์ เสนาบดีกระทรวงมุรธาธร รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า

ด้วยเหตุว่า ในการแต่ก่อน ๆ มา เมื่อมีการศึกสงครามก็ดี มีการขบถจลาจน ฤๅมีพวกจีนฮ่อยกมาต่อตีก็ดี มักย่อมมีคนที่อยู่ณฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขงนั้นจำต้องข้ามมายังฝั่งขวาฟากตวันตกแล้วแลยังคงตั้งอาไศรย์อยู่ต่อมาจนเวลานี้ อนึ่ง ด้วยเหตุว่า ธรรมเนียมโบราณซึ่งถือว่า คนอย่างเช่นนี้เปนเชลยศึกสงครามนั้น ก็ไม่ได้ทรงพระโปรดเกล้าฯ ให้มีให้ใช้ในราชการประจุบันนี้แล้ว แลยังซ้ำได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีท้องตราประกาศแต่ก่อนแล้วว่า ไม่ให้ผู้ใดจับกุมกักขังคนข้างฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขงไว้ใช้สอยการงานแล้ว แต่บางทีจะมีคนในจำพวกที่กล่าวมานี้ฤๅครอบครัวของตนเหล่านี้บางคนจะอยากกลับคืนไปอยู่บ้านเมืองเดิมของตัวในฝั่งซ้ายฟากตัวนออกแม่น้ำโขงซึ่งเปนดินแดนที่อยู่ในอำนาจแลความปกครองของฝรั่งเสศตามหนังสือสัญญาซึ่งได้ทำไว้เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๒ แลได้แลกเปลี่ยนเปนใช้ได้กันแต่ณวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๑๒

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศให้คนเหล่านี้ทราบว่า ไม่ได้มีพระราชประสงค์จะห้ามหวงขัดขืนน้ำใจอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งคนเหล่านี้จะกลับคืนไปอยู่ยังฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขงเหมือนดังเช่นได้เปนมาแต่ก่อนแล้ว ถ้าแลคนในบังคับฝรั่งเสศก็ดี คนในบังคับญวนฤๅลาวชาวฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขงก็ดี คนในบังคับเขมรก็ดี ต้องถูกมีผู้ข่มขืนน้ำใจกักเกาะกุมไว้โดยพลการตนในพระราชอาณาจักรนี้ด้วยเหตุใด ๆ ก็ดี เมื่อราชาธิปตัยได้ทราบความนั้นแล้ว ก็จะได้จัดการตามที่จำเปนให้คนเหล่านี้ได้ส่งไปยังราชทูตฝรั่งเสศณกรุงเทพฯ ฤๅส่งไปยังพนักงานฝรั่งเสศที่ปลายแดนนั้น

เพราะเหตุฉนั้น ตั้งแต่นี้สืบไป ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งมีคนใช้ฤๅมีคนอยู่ในอำนาจตนรักษาอยู่ด้วยเหตุใด ๆ ก็ดี อันเปนคนที่อยู่ในบังคับฝรั่งเสศก็ดี คนในบังคับญวนฤๅลาวชาวฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขงก็ดี ฤๅคนในบังคับเขมรก็ดี ให้รีบไปแจ้งความแก่เจ้าพนักงานในตำบลซึ่งตนอยู่ใกล้นั้น คือ ข้าหลวงฤๅผู้สำเร็จราชการเมืองกรมการฤๅเจ้านายท้าวพระยากรมการอันเปนผู้ซึ่งได้รับคำสั่งให้ปล่อยคนเหล่านี้จากที่ซึ่งต้องกักขังเกาะกุมไว้นั้นเสียทันที แล้วจะได้มีใบบอกเข้ามายังกรุงเทพฯ ด้วย

เมื่อครบกำหนดสองเดือนตั้งแต่วันที่ลงไว้ในประกาศนี้ ถ้าประชาชนผู้ใดในพระราชอาณาจักรนี้ยังมีคนใช้ฤๅอยู่ในอำนาจตนรักษา เปนคนในบังคับฝรั่งเสศก็ดี คนในบังคับญวนฤๅลาวชาวฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขงก็ดี ฤๅคนในบังคับเขมรก็ดี แล้วละเลยเสียไม่มาบอกต่อเจ้าพนักงานดังกล่าวมาข้างต้นแล้ว แลแกล้งจงใจกักขังเกาะกุมคนจำพวกที่กล่าวมานี้ไว้โดยพลการตนเองแล้ว เมื่อพิจารณาในศาลอันควรชำระเปนสัตย์ฉนี้แล้ว ก็ต้องจะมีโทษแลปรับไหมเสมอกับเช่นกักขังเกาะคุมคนไว้ผิดกฎหมายตามโทษานุโทษดังมีในลักษณอาญาหลวง มาตรา ๑๔ ฤๅมีในลักษณอาญาราษฎร มาตรา ๓๗ นั้น

ประกาศมาณวันพฤหัศบดีที่ ๒๒ เดือนมินาคม ๑๑๒