การปกครองแคว้นลาวและเขมรของฝรั่งเศส/ภาคหนึ่ง/บทที่ 1
ฝรั่งเศสได้แคว้นลาวไปเป็นรัฐอารักขาโดยสนธิสัญญากับไทย ไม่ได้ทำสนธิสัญญากับเจ้าพื้นเมือง เพราะครั้งนั้น ลาวก็คือส่วนหนึ่งของประเทศไทยแท้ ๆ เพราะฉะนั้น แม้ลาวจะมีสภาพเป็นรัฐอารักขาก็จริง แต่ก็มีฐานะต่ำต้อยกว่าเขมร ซึ่งเป็นรัฐอารักขาโดยสนธิสัญญาระหว่างฝรั่งเศสกับเจ้าพื้นเมืองซึ่งยังปกครองประเทศอยูโดยนิตินัย ลาวจึงเป็นรัฐอารักขาแต่ในนาม เพราะความจริงได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันอาณานิคมแท้ ๆ
ประมุขแห่งแคว้นลาว คือ Résident Supérieur ชาวฝรั่งเศส เรสิดังต์สุเปริเออร์ หรือผู้สำเร็จราชการแคว้นนี้ เป็นประมุขแห่งแคว้นทั้งโดยนิตินัยและโดยพฤตตินัย เพราะแคว้นลาวไม่มีกษัตริย์พื้นเมืองดังเช่นในญวนกลางและเขมร มีแต่เจ้าผู้ครองนครหลวงพระบางซึ่งฝรั่งเศสยกย่องให้เป็นกษัตริย์แห่งนครหลวงพระบาง (Roi de Luang Prabang) โดยฉะเพาะ เรสิดังต์สุเปริเออร์มีอำนาจสิทธิ์ขาดในทางปกครอง บังคับบัญชาข้ารัฐการทุกตำแหน่งหน้าที่ รับผิดชอบในความปลอดภัย ทุกข์สุขของราษฎร การภาษีอากร และในทางเศรษฐกิจ ต่อผู้สำเร็จราชการอินโดจีน
เรสิดังต์สุเปริเออร์มีสภาที่ปรึกษารัฐการแห่งแคว้นสภาเดียว คือ Assemblée Consultative Indigene (สภาที่ปรึกษาชาวพื้นเมือง) ซึ่งมีหน้าที่ให้คำปรึกษาต่อเรสิดังต์สุเปริเออร์ตามแต่เรสิดังต์สุเปริเออร์จะส่งเรื่องไปให้พิจารณา และในแคว้นลาวนี้มีองค์การ เช่น Chambre de Commerce (หอการค้า) และ Chambre d'Agriculture (หอการเกษตรกรรม) ซึ่งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกิจการของหอนั้น ๆ เช่นเดียวกับแคว้นอื่น ๆ แต่เพื่อการประหยัด จึงได้รวมหอทั้ง ๒ เป็นหอเดียวกัน นอกจากนี้ ก็มีคณะกรรมการเทฆนิค (Conseils techniques) ดังเช่นในแคว้นอื่น ๆ เหมือนกัน
ตำแหน่งรัฐการในแคว้นลาวถัดจากเรสิดังต์สุเปริเออร์ลงไปมี
๑.จเรการปกครองและการเมือง
๒.รอง (ปลัด) เรสิดังต์สุเปริเออร์
๓.ผู้อำนวยการไปรษณีย์โทรเลข
๔.ผู้บังคับการตำรวจ
๕.หัวหน้ากองคลัง
๖.หัวหน้ากองศุลกากรและสรรพากร
๗.หัวหน้ากองสาธารณสุข
๘.หัวหน้ากองสัตวแพทย์
๙.หัวหน้ากองป่าไม้และที่ดิน
๑๐.หัวหน้ากองโลหกิจ
๑๑.หัวหน้ากองเกษตร์
๑๒.หัวหน้ากองโยธาเทศบาล
๑๓.หัวหน้ากองธรรมการ
๑๔.หัวหน้ากองทะเบียนบุริมสิทธิ์และทรัพยสิทธิ์
๑๕.หัวหน้าแผนกกลาง ซึ่งตามปกติมี ๓ ตำแหน่ง
นอกจากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่รองลงมาตามสมควร
เจ้าหน้าที่กองต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้ารัฐการผู้ใหญ่นั้น ถ้าจะเทียบตำแหน่งกับฝ่ายไทยแล้ว ก็เท่ากับข้าหลวงภาคหรือหัวหน้ากอง กิจการในหน้าที่ของเจ้าพนักงานเหล่านี้จะได้มีอธิบายไว้ในบทว่าด้วยลักษณะการบริหารและกิจการบางอย่างในแคว้นลาว สำนักงานของเรสิดังต์สุเปริเออร์และของหัวหน้ากองต่าง ๆ ตั้งอยู่ณเมืองเวียงจันทน์
แคว้นลาวมีงบประมาณโดยฉะเพาะ และการทำงบประมาณนี้อยู่ในอำนาจของเรสิดังต์สุเปริเออร์ งบประมาณรายได้ได้จากภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม
ภาษีทางตรงมีดังนี้:―
๑.ภาษีรัชชูปการสำหรับชาวยุโรปและคนต่างด้าว
๒.ภาษีรัชชูปการสำหรับชาวพื้นเมือง
๓.ภาษีรัชชูปการสำหรับชาวญวน
๔.ภาษีรัชชูปการสำหรับคนต่างด้าวชาวเอเซีย
๕.ภาษีถ่ายแรงแทนเกณฑ์จ้าง
๖.ภาษีถ่ายแรงแทนทำงานสาธารณประโยชน์สำหรับชาวญวน
๗.ภาษีโรงค้า
๘.ภาษีโรงต้มกลั่นสุราและการจำหน่ายสุรา
๙.ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เกี่ยวกับการให้มีและใช้อาวุธปืน ค่าทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณสัตว์พาหนะ ฯลฯ
๑๐.ภาษีที่ดิน
๑๑.ภาษีรถจักรยานและเกวียน
๑๒.ค่าภาคหลวงในการตัดฟันชักลากไม้
ภาษีทางอ้อมซึ่งเก็บทุก ๆ แคว้นมิดังนี้:―
๑.ภาษีศุลกากร
๒.ภาษีการจดทะเบียนบุริมสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ และนิติกรรม
๓.อากรแสตมป์
๔.ภาษีฝิ่น
๕.ภาษีสุราพื้นเมือง
๖.ภาษีเกลือ
๗.ภาษีสุราต่างประเทศ
๘.ภาษียาสูบ
๙.ภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง
๑๐.ภาษีไม้ขีดไฟ
๑๑.ภาษีอาวุธปืนและเครื่องกะสุนปืน
๑๒.ภาษีไพ่